บทความ
กว่า 30 ปี ที่ ครูจิ๋ว ทองพูล บัวศรี แห่งมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก คลุกคลีอยู่กับเด็กเร่ร่อน ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาของสังคมไทยมาช้านาน และเป็นวงจรปัญหาที่ไม่มีทีท่าว่าจะหมดไปได้ง่าย ยิ่งมีความเปลี่ยนแปลงทางสังคมมากขึ้นเท่าไหร่ การแก้ไขปัญหาเด็กเร่ร่อนก็มีความ
อ่านต่อทั้งหมด +
จำได้แม่นอย่างมาก ตั้งแต่ปี 2556 ไม่มีเวลาตั้งตัวเลย เพราะเจ้าหน้าที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประสานงานมา และทางผู้บริหารของมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก สั่งให้ไปประชุม ที่ประเทศสิ
อ่านต่อทั้งหมด +
เช้าวันที่ 26 สิงหาคม 2562 ครูได้นัดสัมภาษณ์ให้กับทีมงานของ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กองทุนเกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. 2561 คำถามที่ให้ครูที่ให้สัมภาษณ์ ว่า ทำไม.........ต้องมีโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื
อ่านต่อทั้งหมด +
เมื่อโรงเรียนบอกว่าจะเข้าเรียนได้ ต้องมีใบเกิด สำหรับเด็กห้าคน มันเป็นเรื่องยากมากเลย แต่มีเด็ก 1 คน ใน 5 คน เกิดที่เมืองไทย เกิดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ กระบวนการติดตามหาใบรับรองการเกิดก่อน แล้วคอยมาดำเนินการที่เทศบาล เรื่องใบเกิด
อ่านต่อทั้งหมด +
เสียงโทรศัพท์ ปลุกครูจากภวังค์ความคิด หลายเรื่องด้วยกัน ด้วยหลังจากจ่ายค่าใช้จ่ายค่า คอมพิวเตอร์ของเด็ก ค่าครูสอนภาษาจีน และภาษาอังกฤษ ค่าประกันอุบัติเหตุ ค่าครูสอนเด็กเล็กชั้นอนุบาล ความคิดตามสโลแกนว่า เด็กเรียนฟรี แต่ความจริงคือเสียเงิน
อ่านต่อทั้งหมด +
การเดินถนนแต่ละครั้ง แต่ละเวลา มีการเปลี่ยนแปลงกันทุกครั้ง ในฐานะของครูข้างถนนมือใหม่เพราะเป็นการทำงานที่ลงสัมผัสปัญหาของเด็กเร่ร่อนอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ได้เพียงเขาบอก อ่านมาจากตัวหนังสือ
อ่านต่อทั้งหมด +
เมื่อหน่วยงานภาครัฐที่ทำงานช่วยเหลือเด็กเร่ร่อนไทย/เด็กเร่ร่อนต่างด้าว องค์กรพัฒนาเอกชนก็มีบทบาทในการทำงานที่ทุ่มเทช่วยเหลือคนบนถนนเช่นเดียวกัน
อ่านต่อทั้งหมด +
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2562 แกนนำครูข้างถนน กว่า 42 คน พบสมาชิกวุฒิสภา ที่สนใจงานประเด็กเรื่องเด็กเร่ร่อนไทย/เด็กเร่ร่อนต่างด้าว กว่า 12 คน ที่ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ณ.ห้องประชุม 2406 ชั้นที่ 24 อาคารสุขประพฤติ จำนวนผู้ร่วมประชุมทั้งหมดกว่า 54 คน
อ่านต่อทั้งหมด +
มื่อกระบวนการครูลงชุมชนหลักเขต เรียบร้อย แล้วทุกคนที่เกี่ยวข้อง ผู้ใหญ่บ้าน 2 หมู่บ้าน ประธานสภาชุมชน คุณยายจิต คุณยายสำรวย คนที่เคยเลี้ยงมาก่อน พร้อมใจที่จะไปเป็นพยานบุคคล สำหรับงานต่อไปคือพาน้องเดฟขึ้นมา บุรีรัมย์ ในใจครูต้องรีบทำให้เสร็จ เพราะแต
อ่านต่อทั้งหมด +
การรอคอยคือการทรมาน สำหรับน้องเดฟเอง ครูขอร้องว่าให้ น้องเดฟอยู่กับที่ คือใต้ทางด่วนตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 จนถึงเดือนมิถุนายน 2562 ห้ามเคลื่อนย้ายไปตามเพื่อนโดยเด็ดขาด เพราะวิถีของเด็กเร่ร่อนจะเทกันไปตามเพื่อน เช่น พากันไปเก็บขยะที่สีลม พัฒนพงษ์ ไป
อ่านต่อทั้งหมด +
ด้วยโครงการครูข้างถนน มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ปลายปี 2559 ครูได้พบเด็กเร่ร่อน 1 คนที่ไปขอเงินที่ ประตูน้ำ แล้วซื้ออาหารให้กิน เด็กกินเสร็จก็วิ่งหนีไปยอมตอบคำถามอะไรครูเลย เพียงแต่บอกว่าอาศัยอยู่ใต้ทางด่วนสุขุมวิท 1 เท่านั้น
อ่านต่อทั้งหมด +
เด็กเร่ร่อนบนท้องถนน หน่วยงานที่สังกัดรัฐ มีตำแหน่งครูข้างถนน แล้วมาปรับเปลี่ยนเป็นศูนย์สร้างโอกาส ในการประชุมบอกว่า เด็กเร่ร่อนบนถนน เด็กข้างถนน น้อยลง จากการดำเนินการของหน่วยงานของเขา
อ่านต่อทั้งหมด +
การศึกษา..คือการลงทุน
อ่านต่อทั้งหมด +
โรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนเมื่อปลายเดือนมีนาคม-เมษายน 2562 ครูซิ้มกับครูจอย ได้พาเด็กลูกกรรมกรก่อสร้างในแคมป์งานต่างๆไปทัศนศึกษา พาเด็กออกจากสถานที่เคยอยู่ ทั้งครูและเด็กต่างตื่นเต้นกันคนละหน้าที่
อ่านต่อทั้งหมด +
ศูนย์เด็กก่อสร้าง มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ทางโครงการเปิดศูนย์เด็กก่อสร้างเต็มรูปแบบ แบบครูที่สอนนอนกินอยู่ในแหล่งก่อสร้าง มีบ้านพักเหมือนคนงานก่อสร้าง เพียงแต่ห้องน้ำห้องส้วมใช้ที่โรงเรียน ไม่ได้ไปใช้กับคนงานเท่านั้น
อ่านต่อทั้งหมด +
เสียงโทรศัพท์ที่ดังลั่นห้องทำงาน ซึ่งครูซิ้มกำลังคุยงานกับครูอยู่ จนต้องบอกว่าให้รับโทรศัพท์ก่อน อาจเป็นกรณีศึกษาที่ต้องการความช่วยเหลือด่วน ครูซิ้มพูดออกมาว่า ครู มีกรณีศึกษา เด็กเป็นชาวกัมพูชา เป็นเด็กผู้หญิงสองคน ที่พ่อแม่ อยากให้ลูกเรียนหนังสือ เ
อ่านต่อทั้งหมด +
ด้วยทางโครงการโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ ได้รับนักศึกษาฝึกงานเมื่อปี 2561 มาจำนวน 2 คน จากมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ ได้จัดทำ คู่มือปฏิบัติงานการเรียนรู้ ลูกกรรมก่อสร้าง เป็นหลักสูตร ในการเสริมทักษะชีวิตกับเด็กจำนวน 4 หน่วยงาน โดยมีนางสาวบุษรินทร
อ่านต่อทั้งหมด +
เสียงโทรศัพท์มือถือดังลั่นห้องทำงาน ถี่ๆ รัวๆ เป็นสิบครั้ง ซึ่งครูเองกำลังค้นหาเอกสารอยู่ในห้องทำงาน พอมาดูเบอร์โทรศัพท์ไม่คุ้นเลย จะเป็นเบอร์กรณีศึกษาก็ไม่ใช่ จึงไม่รับเพราะช่วงนี้มีผู้ก่อกวนอยู่บ่อยๆ เสียงก็ดังอีกครั้งจึงตัดสินรับ
อ่านต่อทั้งหมด +
จากการทำงานของโครงการครูข้างถนน ที่ลงลึกไปยังครอบครัวของเด็กที่ติดตามแม่ออกมาขอทานข้างถนน ซึ่งมีจำนวนมาก แต่กระบวนการช่วยเหลือที่ครูใช้ในการลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ จนเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจ ที่จะบอกกล่าวครู หรือการช่วยเหลืออย่างด้วยความจริงใจในการทำงานกั
อ่านต่อทั้งหมด +
เสียงโทรศัพท์ดังติดๆกัน จนเรียกว่าถี่ แบบติดๆกันเลย ครูเองเพิ่งกำลังเตรียมตัวอาบน้ำ เพราะเช้านี้เตรียมคุยงานหลายเรื่องด้วยกัน เพราะมีนักศึกษาขอลงงานพื้นที่ด้วย เตรียมคุยจัดตารางการลงพื้นที่ ในสัปดาห์ต่อไป
อ่านต่อทั้งหมด +