กล่องห้องสมุดโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่
ผู้จัดการโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก
ด้วยโครงการโรงเรียนเด็กก่อสร้าง ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 แล้ว การทำงานจึงปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กลูกกรรมกรก่อสร้าง การสอน การเขียน การฟัง การพูด เป็นภาษาไทย การเข้าถึงแคมป์งาน มีบางแห่ง ที่ไม่ให้ทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่เข้าไปทำกิจกรรม
ด้วยเหตุผลสำคัญ คือ ไม่รู้จักครูที่ทำกิจกรรมในแต่ละแคมป์งาน เพราะด้วยคนงานก่อสร้างมีเพียงแค่ 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ถูกกฎหมาย แม้กระทั่งบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ และคนงานก่อสร้างเองก็ไม่ยอมที่จะบอกว่าต้องการให้ครูช่วยเหลือ
ในช่วงปี 2563 จนถึงปัจจุบัน สิ่งที่เกิดขึ้น คือ คนงานก่อสร้างติดโควิด-19 จนถึงขั้นสั่งปิดแคมป์การทำงาน คนงานก่อสร้างต้องหยุดงาน เป็นช่วงที่ทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ ได้แบ่งปันถุงยังชีพไปตามบ้านพักคนงานก่อสร้างในพื้นที่ต่างๆ กว่า 7,000 ถุง พร้อมยาฟ้าทะลายโจร และยาฮัวเหลียน ที่ส่งให้คนงานก่อสร้าง โดยเฉพาะกลุ่มที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย
สำหรับเด็กที่ติดโควิด-19 ส่วนหนึ่งส่งเข้าไปยังศูนย์กักตัวเกียกกาย และรักษาตามสิทธิของพ่อ หรือแม่ แต่บางครอบครัวก็ติดกันยกแคมป์งานก่อสร้างกันเลย
สำหรับเด็กต่างชาติที่ไม่ได้รับสิทธิ ทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ ก็จัดหายาทั้งฟ้าทะลายโจร/ยาพาราเซต สารพัดยาต้มแทนน้ำ ตั้งแต่ น้ำตะไคร้/น้ำขิง/น้ำกระชาย แม้ใบฟ้าทะลายโจร รักษากันจนหาย ใช้การรักษาแบบหมอเถื่อน สิ่งเหล่านี้ ทางทีมงานจึงได้ใจจากคนงานก่อสร้าง แม้กระทั่งกับผู้รับเหมา ว่าทีมงานมีความจริงใจกับคนงานก่อสร้างทุกคน
สำหรับต้นปี 2565 ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 ยังมีระลอก 4,5 การเข้าไปทำกิจกรรมกับเด็กก็ไม่ได้บรรลุ เพราะทุกแหล่งก่อสร้าง ยังไม่ให้เข้าไปทำกิจกรรมเหมือนช่วงแรก สิ่งที่พอจะปรับได้ ในช่วงนี้
1. ทุกแห่งแคมป์คนงานพยายามจะลงไปเยี่ยมเยียน พร้อมกับ นำถุงยังชีพ ไปประคองกันไว้ก่อน ด้วยสาเหตุ คือ ครอบครัวไหน ติดโควิด-19 ก็ไปรักษาตัว ตามที่โรงพยาบาลประจำตำบลแห่งนั้น แล้วมากักตัวต่อในแคมป์อีก 5 วัน โดยเฉลี่ย 15 วัน ครอบครัวเหล่านั้นไม่มีรายได้เข้ามาเลย แต่การอยู่การกิน ยังต้องมีให้กิน เพราะมีลูก ทางโครงการฯ จึงสนับสนุนถุงยังชีพไปก่อน จนกว่าจะหาย แล้วมีรายได้เข้า คนงานเหล่านี้ เป็นลูกจ้างรายวัน พร้อมที่จะถูกไล่ออกตลอดเวลา ไม่มีความแน่นอน
2. การประสานงานเรื่องใบรับรองการเกิดของเด็กที่เกิดที่โรงพยาบาล ในตอนออกจากโรงพยาบาลผู้ปกครองไม่ได้รับใบรับรองการเกิดกลับมาด้วย จึงเป็นปัญหาทำให้เด็กไม่มีใบเกิด ซึ่งมีผลกับเด็กในเรื่องการรับวัคซีนตามสิทธิที่เด็กควรจะได้รับ และเมื่ออายุถึงเกณฑ์จะเป็นส่วนหนึ่ง ของการได้เข้าเรียน ตามอนุสัญญาว่าสิทธิเด็ก และมติ ครม.ว่าด้วยเด็กไม่มีเอกสารสามารถเข้าเรียนได้ ตาม ปี พ.ศ. 2535 แก้ไข มติ ครม. ในปี พ.ศ.2548
3.ทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ เน้นการประสานงาน นำเด็กเข้าสู่ระบบโรงเรียน พร้อมทั้งจัดหาชุดนักเรียน พร้อมอุปกรณ์การเรียนให้กับเด็ก ปีนี้นำเด็กเข้าเรียนได้จำนวนมาก
4.ทางโรงเรียนพยายามประสานงานกับผู้รับเหมาก่อสร้าง ในการสร้าง “กล่องห้องสมุด” ในแหล่งก่อสร้าง เพราะด้วยเหตุผลสำคัญ คือด้วยแต่ละสถานที่มีพื้นที่จำกัด และการจัดเป็นห้องสมุดเป็นห้อง ก็ขาดคนดูแลต้องอาศัยผู้ปกครองของเด็กที่จะพาเด็กมาใช้บริการ ในปี 2565 นี้ ได้ดำเนินการ สำหรับ กล่องห้องสมุด จำนวน 2 แห่ง
1.ที่แหล่งก่อสร้างแคมป์คนงานโรงพยาบาลคลองสามวา ของบริษัท 33 จำกัด ระยะการก่อสร้างเป็นเวลา 3 ปี ด้วยเด็กที่ติดตามพ่อ/แม่ มา ส่วนมากเป็นเด็กพม่า (สัญชาติมอญ) และเด็กกัมพูชา จำนวน 13-17 คน แล้วแต่ช่วงในการมีงานทำ ในแคมป์นี้มีเด็กพม่า 2 คน ที่ได้ไปเรียนโรงเรียนลำกระดาน ในชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 แต่ยังมีเด็กที่อยู่ในแคมป์จำนวนกว่าอีกสิบคน แคมป์นี้ผู้ปกครองเด็กเรียกร้องพร้อมทั้งทำกล่องเอาไว้ติดกับร้านค้า
เมื่อทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ นำอุปกรณ์การเรียน/หนังสือ เครื่องเล่นที่ได้รับบริจาคมา และมีบางส่วนที่ซื้อตามงบประมาณที่ได้รับมา และหนังสือตามรอย อักษรพยัญชนะ/สมุดระบายสี เด็กต่างเข้ามุมตามความต้องการของตนเอง
กลุ่มที่เล่น รื้อทุกอย่างที่เล่นได้ นำรถมาไถกับพื้นดิน บางคนของนำไปกอดด้วยในที่นอน แล้วก็นำมาคืนที่กล่อง เอาของเล่นชิ้นใหม่ไปเล่นต่อ สลับกันไปในแต่ละวัน บางคนก็ฟ้องว่าคนนั้นเล่นจนพัง
สำหรับกลุ่มที่จะไปโรงเรียน จะชอบการเขียนตามรอย เตรียมตัวเอง เพื่อไปโรงเรียน หัดระบายสี หัดฝึกการอ่านผสมคำ บางครั้งได้คนขายของที่ร้านค้า เป็นคนฝึกการอ่าน ตั้งแต่ ก-ฮ หรือบางคน ก็หัดอ่านผสมสระ
2.แคมป์คนงานก่อสร้างบริษัทก่อสร้างหมู่บ้าน โนริเนบ วิภาวดี ส่วนมากเป็นคนงานก่อสร้างที่รับเหมากันเอง เป็นหลักในการก่อสร้างหมู่บ้าน ส่วนมากเป็นชาวกัมพูชา และพม่า แคมป์แห่งนี้มีเด็กที่ได้รับโอกาสทางการศึกษา ที่โรงเรียนประชาอุทิศจำนวน 4 คน (เด็กพม่า 1 คน เด็กกัมพูชา จำนวน 3 คน) และยังมีเด็กอยู่ในแคมป์ก่อสร้างอีก 10 กว่าคน ที่ยังไม่ได้เรียน
สำหรับกล่องห้องสมุด เป็นตู้ที่ทำฝาปิด วันที่ทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างไปจัดกล่องห้องสมุด เด็กน้อย 1 คน ที่อยู่ใกล้ที่สุด มาเล่นของเล่นอย่างสนุกสนาน แล้วบอกว่า เอาไปห้อง เสียงแม่เด็กบอกว่า เอาไปแค่ชิ้นเดียว รอพี่ๆ กลับจากโรงเรียนแล้วมาเล่นด้วยกัน