โควิด-19 กับเด็กลูกกรรมก่อสร้าง (ตอนที่ 3)
นางสาวทองพูล บัวศรี
ผู้จัดการโครงการครูข้างถนน มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก
การลงพื้นที่ติดภาคสนาม ในขณะที่เกิดการระบาดโควิด-19 ทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ ยังลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องสลับกับงานครูข้างถนน บางวันก็ใช้วิธีการว่า ลงพื้นที่ แหล่งก่อสร้างตอนเช้า เมื่อเสร็จก็ลุยต่อไปยังพื้นที่ข้างถนน/คนไร้บ้าน/เด็กเร่ร่อน
3.พื้นที่ บริษัท 33 จำกัด แจ้งวัฒนะ 14 ส่วนมากเป็นคนงานก่อสร้างชาวพม่า จำนวนกว่า 21 ครอบครัว คนงานก่อสร้างชาวกัมพูชา และคนไทย รวมทั้งสิ้นกว่า 55 ครอบครัว ที่มีเด็กอยู่กับครอบครัว แคมป์งานถูกรบกวนด้วยผู้บังคับใช้กฎหมาย เพราะคนงานส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่กลับประเทศ แต่คนเป็นงานต่างด้าว ที่เข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย จึงเป็นแหล่งให้ผู้บังคับใช้กฎหมายมารีดไถ่ เดือดร้อน ประมาณ 5 เดือนเต็ม เพราะไม่มีงานก่อสร้างคือการไม่มีเงินให้หน่วยงานไหนทั้งสิ้น แค่ลูกก็จะอดตายอยู่แล้ว ทางโครงการโรงเรียนเด็กก่อสร้างจึงเข้าบ่อยมาก แต่ได้แค่หน้าแคมป์เท่านั้น ด้วยการเข็มงวดของคนที่ดูแลคนงานทั้งหมด
4.พื้นที่ บริษัทพฤกษาเรียสเอสเตท จำกัด ที่อยู่ติดกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในช่วงต้นปี 2563 (มกราคม 2563-ต้นเดือนมีนาคม 2563) ยังมีบ้านพักคนงานก่อสร้าง คนงานก่อสร้างมีจำนวนหนึ่งที่ทางโครงการฯลงไปทำงานช่วยเหลือ เพราะมีเด็กชาวต่างชาติกว่า 25 คน ที่กำลังอยู่ในช่วงอายุ 3-11 ปี กำลังอ่าน-เขียน-พูด ภาษาไทย แต่ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563 มีการกระจายตัวอย่างมาก ด้วยทางบริษัทยุติให้การทำงาน สำหรับคนงานต่างด้าว ผู้รับเหมาส่งกลับคนงานก่อสร้าง ประเทศกัมพูชา /พม่า/ลาว ที่เหลือก็กระจายมาอยู่ แจ้งวัฒนะ 6 สำหรับเด็กก็มาอยู่ ลักษณะที่พักสร้างบ้านพักสร้างติดกับพื้น ประมาณ 100 ห้อง มีคนงานก่อสร้างอยู่ประมาณ 20 ครอบครัว แต่ต้องออกไปหางานทำเอง ผู้รับเหมาจึงใช้การรับงานเอง จนกว่าโครงการจะเริ่มงานอีกครั้ง
5.พื้นที่ ของบริษัทปรีดา โฮดิ้ง จำกัด สร้างคอนโนกรีนเน่ยโฮดิ้ง ในช่วงเดือนมีนาคม –มิถุนายน 2563 เป็นคอนโนมีเนียม ที่ทางบริษัทลุยงานให้เสร็จ โดยส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างของบริษัท แต่สิ่งที่พบคือมีเด็กจำนวนมากที่อยู่กับแม่เด็ก มีคนงานที่เป็นคนไทย และอีกส่วนหนึ่งรับคนงานก่อสร้างชาวกัมพูชา ที่ไม่ได้กลับประเทศ จำนวนกว่า 50 ครอบครัว มีเฉพาะคนงานผู้ชายที่ทำงาน แม่กับเด็กหลบกันอยู่ในบ้านพักคนงานก่อสร้าง บางครอบครัวต้องพากันไปอาศัยใต้ตึกที่สร้างเสร็จแล้ว แต่บางครอบครัว ก็อยู่สโตร์ที่เก็บของ มีไม้กั้นเป็นห้องที่พัก คนงานก่อสร้างเมื่อต้นเดือนตุลาคม ย้ายออกไปบางแค เหลือเฉพาะคนงานคนไทยที่เก็บงาน และเด็กที่เรียนโรงเรียนประชาอุทิศกำลังสอบ
6.พื้นที่ ของบริษัทอิตาเลี่ยนไทย จำกัด ดอนเมือง ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้างอยู่กันมานานกว่า 3 ปี การประสานงานใช้การเชื่อมต่อมาจาก อิตาเลี่ยน 9 ไร่ ด้วยพ่อบ้านที่ดูแลเด็ก และห้องพัก ครั้งแรกไม่ค่อยให้ความร่วมมือ เพราะมีหน่วยงาน/องค์กรภาครัฐ ส่วนมากเข้าไปเอารายชื่อเด็กที่เข้าเรียน และเอาป้ายมาติด แต่ไม่เคยเข้ามาดูแลเด็กเลย จึงทำให้พ่อบ้านไม่อยากให้หน่วยงานเข้าทำกิจกรรม ทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ จึงมีการประสานงานพร้อมลุยเยี่ยมตามบ้านที่ละหลัง พร้อมถุงยังชีพ ให้แต่ละครอบครัว ซึ่งสถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับโรงเรียนประชาอุทิศ และติดกับชุมชนเก่าของสำนักงานเขตดอนเมือง และที่สำคัญ ปลายเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่ไม่มีงานทำ เด็กกับครอบครัวเดือดร้อนอย่างมาก ด้วยไม่สามารถออกจากบ้านพักคนงานก่อสร้างได้
เป็นจังหวะที่ทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ลงงานภาคสนามโดยมองถุงยังชีพที่ได้รับมา พร้อมหน้ากากอนามัยให้กับเด็กทุกคน สามอาทิตย์ลงไปเยี่ยมนำอาหารแห้งที่ได้รับในช่วงนั้น แบ่งปันกัน จึงได้รับเรื่องราวมากมาย มีคนพิการและผู้ป่วยติดเตียง จนถึงความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ การอยู่ด้วยกันทั้งวันและคืนในห้องสี่เหลี่ยม ค่าไฟฟ้าขึ้นเป็นจำนวนมาก ค่าโทรศัพท์มือถือของเด็กที่นอนเล่นเกมส์ในห้องพัก เสียงผู้ปกครอง ครูค่ะมีแต่รายจ่ายอย่างเดียว แล้วจะทำอย่างไรกัน
อาหารที่ครูหามาแบ่งปัน ช่วยชีวิตพวกฉัน นะครู ขอบคุณจริงๆ
7.พื้นที่อิตาเลี่ยนไทย จำกัด หลังช่อง 11 โดยทางโครงการโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ ขับรถหลงทาง คือต้องไปพบครอบครัวเด็กเร่ร่อนต่างด้าว มีเรื่องร้องเรียน มีครอบครัวหนึ่งไปซื้อเด็กมาจากแม่สอด บังคับเด็กให้ขายดอกไม้ และลูกอม จึงจะหลงไปพบคนที่ร้องเรียน แต่ขับรถลงทางผิด
จึงได้พบกับบ้านพักคนงานก่อสร้างขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่ของบริษัทอิตาเลี่ยนไทย จำกัด อยู่มาแล้วกว่า 5 ปี มีเด็กที่เรียนหนังสือกว่า 34 คน ที่เรียนหนังสือในบริเวณหลัง ช่อง 11 และกำลังอยู่ในช่วงที่ผู้ปกครองเด็กอยู่บ้านพัก ออกไปไหนไม่ได้ ร้านค้าก็ไม่มีอะไรขาย
แบ่งปันอาหารทั้งหมดจำนวน 56 ชุด เพราะมีผู้สูงอายุกว่า 10 คน มีคนพิการจำนวน 5 คน ได้ลงติดตามกันอีกหลายครั้ง ส่วนเด็กนักเรียน ได้มอบอุปกรณ์การเรียนพร้อมกระเป๋า
มีพ่อบ้าน ของบริษัทอิตาเลี่ยนไทย จำกัด ขอความช่วยเหลือให้นำถุงยังชีพ แต่ทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ ขอเป็นโอกาสหน้าที่จะลงพื้นที่ และยังมีบริษัทหลายแห่งที่อยู่บริเวณนั้น อีก 3-5 แห่ง จึงบอกว่าทางโครงการฯขอทำกิจกรรมในโอกาสต่อไป
8.พื้นที่ทางลงใต้ทางด่วนถนนแจ้งวัฒนะ เป็นของบริษัท CN จำกัด สร้างบ้านพักติดกับพื้นที่ มีจำนวนบ้านพัก กว่า 250 ห้อง ส่วนใหญ่เป็นคนงานก่อสร้างต่างด้าว โดยมีผู้รับเหมาเป็นคนไทย บริษัทนี้ไม่ได้มีการติดต่ออย่างเป็นทางการ ขอลุยเอาสิงของเข้าไปแจกเลย แล้วก็ขอทำกิจกรรมในโอกาสต่อ
ทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ได้ปรับการทำงานอย่างต่อเนื่อง และลุยการลงพื้นที่ โดยเฉพาะการแบ่งปันถุงยังชีพ /ข้าวสาร อาหารแห้ง พร้องสิ่งของที่ได้รับบริจาคมาก