โควิด-19 กับเด็กลูกกรรมกรก่อสร้าง (ตอน 2)
นางสาวทองพูล บัวศรี
ผู้จัดการโครงการครูข้างถนน มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก
เมื่อทีมงานโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ ได้ลงชุมชนเสือใหญ่อุทิศ โดยคนประสานงานในพื้นที่ บอกกับครูว่า ชุมชนอื่นๆ เขาได้แจกถุงยังชีพกันหมด ยกเว้นกลุ่มคนที่อยู่ในซอยจันเกษม26-9 จำนวน กว่า 60 หลังคา แต่ที่แย่ที่สุดมีประมาณ 13 ครอบครัว เด็กกว่า 30 คนเท่านั้น
ครูซิ้ม ที่เป็นทีมงานก็มากระทุ้งต่อว่า หนูเคยอยู่ที่นี้ ในชุมชนแห่งนี้ มาหลายสิบปี แม่ก็อยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว มันมีปัญหาเพราะชุมชนแห่งนี้ไม่ได้รับการยอมรับเพราะไม่มีบ้านเลขที่ มียาเสพติดในชุมชนหนักมาก ตา/ยาย/ย่า/น้า/อา ต้องอยู่กับกองขยะที่ไม่ได้รับการจัดการ สภาพที่พักไม่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย
แต่ก็มีเสียงของคุณย่า/คุณยาย บอกว่าอยู่กันมาตั้งแต่เกิดแล้ว แล้วก็ขอตายตรงนี้แหละ มีผู้สูงอายุกว่า 12 คน มีผู้ป่วยติดเตียง 3 คน สิ่งที่พบอีกประการหนึ่ง ผู้สูงอายุทุกคนต้องทำงาน เพื่อเอาเงินที่ได้มาเลี้ยงดู ลูกหลาน ไปเยี่ยมลูกที่อยู่ไกลถึงฮ่องกง (คดีที่ถูกจับกัน คือ ยาเสพติด(ส่วนมากจำหน่าย) ลักทรัพย์ (โดยเฉพาะมอเตอร์ไซด์) ปล้น/ละเมิดทางเพศ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ขาดความรับผิดชอบในตนเองอย่างชัดเจน หลานจึงต้องส่งให้ ตา/ยาย/ย่า เลี้ยง)
ผู้สูงอายุ มีอายุถึง 70-79 ปี ที่ต้องนั่งแกะเส้นทองเหลือง เพื่อขายเอาเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้าน/อาหารการกินของ หลาน หลาน เองก็ต้องช่วยในแต่ละวัน เพื่อมีอาหาร
แม่เลี้ยงเดี่ยว ลูกชายโตเรียนในระดับ ปวช. เมื่อเทอมที่แล้ว ค้างค่าเล่าเรียน จำนวนกว่าหกพันบาท เมื่อครูได้มี ทีมงานชอง บริษัทกรุงไทยการไฟฟ้า มาทำกิจกรรม ได้ให้ทุนการศึกษา ปีละ 40,000 บาท ช่วยชีวิตเด็กพร้อมกับครอบครัว อย่างน้อย ลูกฉันได้เรียนต่อ ลูกไม่ต้องกังวลกับค่าบำรุงการศึกษา พ่อ/แม่พร้อมก็ช่วยกันหาคือค่าพาหนะ/ค่าอาหารการกินไปโรงเรียน
ครูค่ะ/ครูครับ เหมือนเทวดามาโปรดค่ะ ให้ได้กิน ให้ได้เรียน ให้ได้มีกระเป๋ารองเท้าใหม่ไปโรงเรียน เจริญ เจริญ เจริญ นะครู
สำหรับการช่วยเหลือผ่าน โรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ ช่วยเหลือครอบครัวตั้งแต่มีนาคม 2563 จนมาถึง ต้นเดือนตุลาคม 2563
1. ครอบครัวที่เป็นกลุ่มลูกกรรมกรก่อสร้าง จำนวน 16 แห่ง และใน 2 ชุมชน รวมทั้งหมด 18 พื้นที่ ได่วยเหลือ จำนวน 518 ครอบครัว รวมทั้งคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง
2.เด็กที่ทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ และอยู่ในครอบครัว มีตั้งแต่แรกเกิดจนถึง อายุ 18ปี ที่อยู่ในแคมป์บ้านพักกรรมกรก่อสร้าง จำนวน 693 คน (รวมกลุ่มนักเรียน ที่ปิดภาคเรียนจากต่างจังหวัด ที่มาติดค้างกับครอบครัวด้วย)
3.ทางโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ ดำเนินมอบกระเป๋า มอบรองเท้า/อุปกรณ์การเรียน/ชุดลูกเสือ/ชุดยุวกาชาด และชุดนักเรียน จำนวนทั้งสิ้น 222 คน เป็นการเพิ่มจำนวนอย่างมาก เพราะผู้ปกครองของเด็ก ไม่มีรายได้เข้ามา ในการจัดการซื้อข้าวของอุกรณ์การเรียน/รองเท้าให้กับเด็ก
เสียง ยาย/ย่า ของเด็กเหล่านี้ เอาให้ชีวิตรอดให้แต่ละวันก็ยากแล้วครู ไม่ต้องกำหนดอนาคตให้เลย ยาเสพติดในชุมชนก็เยอะ อบายมุขดึงเด็กออกจากบ้านเยอะไปหมด มีแต่เสี่ยงๆทั้งนั้น โควิด-19 มา เหมือนมาซ้ำเติมชีวิตที่อด ยิ่งอดยิ่งขึ้น
ครูเอง ก็มอบครูซิ้มประสานงานกับพ่อบ้านในบริษัทที่โรงเรียนเด็กก่อสร้างทำงาน
1.บริษัทอิตาเลี่ยนไทย จำกัด ชุมชน 9 ไร่ ครูครับนโยบายของบริษัทไม่ให้หน่วยงานไหนเข้าบ้านพักคนงานเด็ดขาด แต่มีหลายครอบครัวที่ ทั้งพ่อ/แม่ หยุดงาน มีเด็กด้วย อดกันทั้งนั้นเลย แต่ผมให้มาจัดกิจกรรมที่ ทางเข้าบ้านพักคนงาน โดยมียามดูแลในการวัดไข้ทุกคน ล้างมือ ปิดหน้ากากอนามัย แต่กิจกรรมในแต่ละครั้ง ไม่เกิน 30 นาที นะครู สำหรับ พื้นที่ทางโครง ได้เข้าไปทำกิจกรรม ทั้งถุงยังชีพ สำหรับครอบครัว ขนม/นม หน้ากากอนามัย สำหรับเด็ก พร้อมทั้งกระเป๋า/อุปกรณ์การเรียน รองเท้า ชุดนักเรียน จำนวน 11 ครั้งด้วยกัน
2.บริษัทชิโนทัย จำกัด ทั้ง 2 แคมป์คนงานก่อสร้าง วัดเขามา และโรงแรมริเวอร์เพลส (ข้างบริษัทนารายณ์) ความเข็มงวดมีมาก ตั้งแต่การฉีดพ่นด้วยแอลกฮอลส์(สุดท้าย ทางโครงการฯต้องมอบแอลกฮอล์/เจลล้างมือ ที่ได้มาจากเพื่อนพ้องน้องให้กับพ่อบ้านไว้ดำเนินการ) ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ด้วยเสียงของเด็กและแม่เด็กส่วนมาก ให้ทางทีมงานครูลงมาแบ่งปันเถอะ งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มีซื้อเงิน