ทัศนศึกษา...ของเด็กลูกกรรมกรก่อสร้างเคลื่อนที่
นางสาวทองพูล บัวศรี
ผู้จัดการโครงการโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก
โรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนเมื่อปลายเดือนมีนาคม-เมษายน 2562 ครูซิ้มกับครูจอย ได้พาเด็กลูกกรรมกรก่อสร้างในแคมป์งานต่างๆไปทัศนศึกษา พาเด็กออกจากสถานที่เคยอยู่ ทั้งครูและเด็กต่างตื่นเต้นกันคนละหน้าที่
เริ่มจากบ้านพักกรรมกรก่อสร้าง บริษัทแสงรวี 5 บริษัทโกลเด้น เด็กไปจำนวนกว่า 17 คน ผู้ปกครอง 5 คน เต็มรถตู้แบบอัดกันไป บางคนก็นั่งตักแม่ หรือบางคนก็นั่งตักพี่คนโต เสียงเด็กๆบอกว่าต้องแต่งตัวให้สวยที่สุด เพราะเป็นครั้งแรกที่จะออกไปข้างนอก โดยไม่ต้องกลัวตำรวจ ไปกับครูที่มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก
ต่อมาด้วยต้นเดือนเมษายน ที่กำลังร้อน และมีเด็กนักเรียนปิดเทอม เด็กจำนวน 19 คน ผู้ปกครอง 4 คน เจ้าหน้าที่ของบริษัทมาด้วย 1 คน งานนี้เด็กๆได้นั่งรถตู้ของมูลนิธิ ใช้คำว่ายัดกันแน่น แต่ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
มาถึงแคมป์บ้านพักกรรมกรก่อสร้างของบริษัทพฤกษา ที่แจ้งวัฒนะ ได้มีคนงานบางส่วนรบเร้าครูว่าอยากไปเที่ยวบ้าง งานนี้มีเด็กกว่า 12 คน ผู้ปกครองเด็ก 3 คน นั่งช่วยกันเตรียมอาหารแถมโทรตามครูซิ้มว่าเมื่อไรจะมาถึง เด็กๆๆแต่งตัวรออยู่นะ
การท่องเที่ยวครั้งนี้ เด็กกว่า 47 คน ผู้ปกครอง 12 คน จาก 3 แคมป์คนงานก่อสร้าง ถือว่าเด็กๆได้รับโอกาสในการเรียนรู้จากสถานที่ คือ สวนรถไฟ ที่สวนจตุจักร และพิพิธภัณฑ์ เด็ก
การเริ่มต้นกิจกรรมของเด็ก คือ เด็กจะขอเงินจากผู้ปกครอง คนละ 20 บาท มีบางคนที่ ครูซิ้มช่วยจ่ายให้ คือการเช่าจักรยานของเด็ก ขับขี่รอบสวน แล้วได้เรียนรู้ในการใช้กฎจราจรว่าขับขี่กันอย่างไร เมืองจราจรที่เด็กๆๆควรรู้ว่าจะเดินทางอย่างไรไม่ให้ผิดกฎจราจร เด็กใช้เวลากว่าสองชั่วโมง บางคนแม่ต้องไปเรียกว่าหมดชั่วโมงการเช่าแล้วต้องเอาจักรยานไปคืนที่ศูนย์ สายตาของเด็กน้อยได้แต่มอง แล้วบอกว่าที่ห้องของพวกเราไม่มีสถานที่ หันมาหาครูจอยว่า พากันมาอีกนะ อยากมาอย่างมาก สนุกมากๆๆ
ครูซิ้มจึงพากันจูงแบบรถไฟ ต่อไปที่พิพิธภัณฑ์เด็ก ได้เข้าไปห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ผ่านการเรียนที่เด็กได้ทำกับมือ เช่นการกองก่อทราย การผสมสีด้วยการใช้แม่สีต่างๆ ตามห้องกว่า 10 ห้อง เป็นอะไรที่เด็กๆๆบอกว่าไม่เบื่อเลย
ในพิพิธภัณฑ์เด็กมีสวนน้ำสำหรับเด็กๆ งานนี้มีการถอดเสื้อผ้าเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ครูโอกาสหน้าของไปทะเลจริงๆๆได้ไหม หนูอยากเห็นน้ำทะเล อยากชิมว่ามันเค็มแค่ไหน อย่างรู้ว่าเมื่อเป็นแผลแล้วโดนน้ำทะเลมันแสบแค่ไหน....อยากไปนะครู
เล่นให้หมดแรงกันไปเลย เลยบ่ายแล้วงานนี้ ก็หันมาหาขนม นม อาหารกลางวัน ส่วนมากจะซื้อของสดไปให้แม่ของเด็กที่เป็นผู้ปกครองทำมา เป็นข้าวเหนี่ยว กับไก่ทอด แต่บางแคมป์แม่ก็ทำมาเสริมให้เด็กๆ เมื่อใช้แรงกันอย่างหนักมาก อาหารที่ว่างอยู่ตรงหน้า จะไม่ให้เหลือกลับไปแน่นอน เด็กๆนั่งล้อมวงกันกินไปไม่มีอิดออด ตั้งใจกินเพื่อให้มีแรง แล้วมาต่อรองกับครูของขี่จักรยานอีกรอบ ครูก็ต้องว่าต้องกลับถึงที่พักก่อนสี่โมง เพราะตำรวจยังไม่ได้ออกมาทำหน้าจราจรบนถนนหลวง ถ้าเจอตำรวจระหว่าทางกลับที่พัก ครูจะซวยเพราะทุกคนผิดกฎหมายหมด เด็กได้แต่พยักหน้าแบบเศร้า จึงสัญญากันว่าอีกสองเดือนจัดกันใหม่
มาส่งเด็กกับผู้ปกครองตามบ้านพัก แม่ของเด็กที่อยู่ซอยแสงระวี 5 ยืนคุยกับครูซิ้มต่อว่า ขอบคุณทางครูทั้ง 2 คนที่ช่วยให้ได้เห็นอะไรที่นอกจากในบ้านพัก พวกเขาอย่างดีก็แค่ลูกๆไปห้างสรรพสินค้าที่ แจ้งวัฒนะเท่านั้น เพราะถ้าไปไกลเจอตำรวจจับเสียเงิน ไม่คุ้มกัน สรุปพ่อเด็กบอกว่านอนเล่นที่ห้องพัก วันนี้ครูพาไปไกลมาก เด็กได้เห็นอะไรเยอะแยะมาก รับรองคืนนี้ได้เล่าให้พ่อฟังทั้งคืนแน่นอน ครูคะนี้ใช่ไหมว่าประสบการณ์ที่เห็นของจริง แล้วเด็กได้เล่นจริง ไม่ได้เห็นแค่ในโทรทัศน์ ถ้าอยู่กัมพูชา เด็กยิ่งไม่ได้เห็นอะไรเลย ขอบคุณนะครู ขอบคุณแทนเด็กๆด้วย
พอมาส่งเด็กที่บ้านพักของบริษัทอิตาเลี่ยนไทย เจ้าหน้าที่ของบริษัท เขามาจับมือครู กล่าวคำขอบคุณ ที่เปิดการเรียนรู้ให้กับเด็ก แต่ที่สำคัญของฉันเองที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเด็กๆ จะได้นำเสนอของบประมาณมาสนับสนุนให้เด็กกลุ่มนี้ได้เรียนรู้แบบไม่ต้องเสียเงิน เสียเพียงค่าขนม ขนม อาหารกลางวัน เราจะได้ทำงานร่วมกันนะครู ขอบคุณอีกครั้ง...
สำหรับที่พฤกษา เสียงพ่อบ้านตระโกนมาแต่ไกลเลยว่าขอบคุณมากนะครู ที่ให้เด็กได้รับโอกาสเหล่านี้ขอบคุณ ทางมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ที่ส่งครูลงมาทำงานกับเด็กๆ ขอบพระคุณครับ....