ด้วยรักและห่วงใยจากคุณยายถึงหลานๆ (ตอนที่ 2)
ผู้จัดการโครงการครูข้างถนน มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก
เมื่อทางโครงการฯ ได้ดำเนินกิจกรรมกับเด็กและเยาวชนสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพ ไปเรียบร้อย ก็เริ่มอีกครั้งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 ด้วยกิจกรรมที่กลุ่มสัมพันธ์ เน้นการสร้างความสัมพันธ์ผ่อนคลาย แทรกความสนุกสนานเฮฮา แต่ทุกอย่างมีบทเรียนของชีวิตที่แทรกในกิจกรรม ตั้งแต่การบริจาคมือ และความสัมพันธ์กับสมองสองซีก แม้แต่ปัญหาเชาว์ที่ทายก็ท้าท้ายความรู้ของเด็กเป็นอย่างดี เช่น ฟันน้ำนมมีกี่ซีก ฟันแท้มีกี่ซีก เด็กเงียบเพราะตอบสลับกัน สิ่งที่เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ในครั้งนี้ เด็กและเยาวชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ครั้งที่สอง จึงเริ่มที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดปทุมธานี โดยมีการประสานงานกับท่านผู้อำนวยการ ว่าที่ร้อยตรีณรงค์ เอี่ยมเหล็ก เคยอยู่ในกรมพินิจและคุ้มเด็กและเยาวชนมาก่อน ท่านบอกว่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทีมวิทยากร เลือกที่จะมาทำกิจกรรม ของโครงการด้วยรักและห่วงใยจากคุณยายถึงหลานๆ เพราะท่านรู้จักคุณหญิงจันทนี สันตะบุตร มานาน ที่สำคัญชื่นชมกิจกรรมทุกอย่างที่ท่านทำ เป็นสิ่งที่มอบให้กับกรมฯมาตลอด
พี่เกื้อ มอบให้ครูจิ๋ว พูดที่มาของโครงการฯ ต่อด้วยกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ ที่พี่ป้อมกับพี่แขกลุยต่ออย่างสนุกสนาน สำหรับเด็กที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนปทุมธานี มีเด็กผู้ชายจำนวน 56 คน เด็กและเยาวชนหญิงจำนวนกว่า 10 คน
ความเข็มแข็ง ของเด็กผู้หญิง แม่ๆบอกว่า ให้ปฏิบัติตัวเป็นไปตามกรอบ เห็นหน้าแล้วใจหายเพราะเด็กเรียนไม่จบระดับประถมศึกษา จบกันแค่. ป.2 กว่าๆเท่านั้น แล้วทุกคนก็เป็นแม่คน เป็นผู้จำหน่ายยาเสพติด ติดร่างแหมากับสามี บางคนพ่อแม่ฝ่ายชายก็ประกันผู้ชายไป ผู้หญิงก็ต้องฝึกอบรมต่อ ใจมันหาย....สถาบันครอบครัวแตกยับเยิน ไม่มีชิ้นดีเลย ความเปราะบางที่เห็นแล้วจะแก้เรื่องครอบครัววัยรุ่นกันอย่างไร แผนยุทธศาสตร์ที่มีอยู่ อยู่ในแผ่นกระดาษแล้วจริงๆๆใช่ไหม
เมื่อเริ่มกิจกรรม พี่ป้อมกับ พี่แขก ก็พยายามให้คละทั้งหญิงและชาย คนดูแลที่นั่งอยู่ด้านหลังก็พยายามที่จะบอกว่าอย่าให้ใกล้ชิดกันมาก ขอให้อยู่ในสายตาตลอดเวลา สุดท้ายแต่ละกลุ่มก็มีน้องผู้หญิงไปคละ 2-3 คน ทำให้กลุ่มดำเนินกิจกรรมอย่างสนุกสนาน อย่างความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี
กิจกรรมหลัก คือการพับกระดาษเอสี่ เป็นสี่พับ แล้ววาดภาพของตัวเอง แต่ครั้งนี้เวลามีมาก ทางคณะวิทยากร จึงให้เด็กได้มีโอกาสสะท้อนกันในกลุ่ม
เด็กและเยาวชนได้วิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งของตนเอง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เข้ามารวมฟังข้อคิดของเด็กๆๆ ด้วย สำหรับผู้เขียนเองขอเข้าร่วมฟังด้วย ในการวิเคราะห์ตัวเอง ครั้งนี้เด็กและเยาวชนชาย มีความรู้ในระดับ ม.1 จนถึง ระดับ ปวช.3 กิจกรรมจึงไปได้ด้วยดี
จุดแข็งของเด็กและเยาวชน
-สร้างเสียงหัวเราะ ตลก สนุกสนานเฮฮา
-แบ่งปัน ช่วยเหลือคนอื่น
-เป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต ตั้งใจเรียนเป็นบางครั้ง
-รักเพื่อนฝูง เพื่อนให้ทำอะไรก็ทำด้วยกัน
-เป็นคนขยัน ช่วยพ่อแม่ทำงาน ไม่ชอบคนอ่อนแอ
-ไม่เกี่ยงงาน ทำงานเป็นทุกอย่าง ซ่อมมอเตอร์ไซด์ ซ่อมรถกระบะ
-เล่นกีฬาเก่ง ชอบเล่นกีฬาทุกชนิด เป็นนักกีฬาโรงเรียน
จุดอ่อนของเด็กและเยาวชน
-ไม่รักตัวเอง เชื่อฟังคนอื่นมากกว่าคนในครอบครัวตัวเอง พูดจาไม่ดีกับคนในครอบครัว
-อยู่ร้านเกมมากกว่าอยู่ที่บ้านของตนเอง กลับบ้านดึกมาก รวมตัวไปแว้นตามที่ต่างๆ
-เริ่มสูบบุหรี่ ทดลองยาเสพติดชนิดอื่นด้วย ชอบหาสิ่งท้าท้าย ทดลองไปเรื่อยๆ
-เริ่มเข้าแก๊ง แข่งรถ ไล่ตี ขายยา สุดท้ายติดยาด้วย มีเมียด้วย
เสียงเด็กในกลุ่มเป็นผู้ชาย บอกว่า ครูครับ พวกผมทำร้ายตัวเอง เพราะรักตัวเองไม่เป็น จึงต้องเป็นแบบนี้ ทางเลือกมีตั้งเยอะแยะ แต่พวกเราขาดการตัดสินใจที่รอบครอบ เพราะความคึกคะนอง มันเป็นบทเรียนที่พวกเราต้องเรียนรู้ หนุ่มน้อยคนนี้พูดจบเสียงตบมือดังลั่นในกลุ่ม
ครูจึงขอบใจพวกเธอทุกคนที่รู้จักตัวเองมากขึ้น แล้วจะนำบทเรียนปรับปรุงตัวเองอย่างไร เป็นสิ่งสำคัญ อย่าเอาความผิดครั้งนี้กดทับไปตลอดชีวิต ชีวิตมันต้องสู้ เสียงเด็กบอกว่าพวกผมต้องสู้กับตัวเองให้ได้ครับ
ต่อด้วยกิจกรรมบันไดงู
โดยการใช้กลุ่มที่ตั้งขึ้นมาในการทำกิจกรรมต้องเป็นกลุ่ม โดยมีทั้งหมด 7 กลุ่มด้วยกัน มีการตั้งชื่อกลุ่ม พร้อมมีเพลงประจำกลุ่ม สัญลักษณ์ประจำกลุ่ม...
ขอเบรคอาหารว่างก่อน อาหารว่างมื้อนี้ไม่ได้ว่างเปล่าแต่อย่างไร เด็กและเยาวชนได้ขนมคนละ หนึ่งถุงซึ่งในถุงมี เจลรสชาติต่างๆตั้งลิ้นจี ส้ม องุ่น ขนมอีก 1 ชิ้น เป็นของโปรดของกลุ่มเด็กและเยาวชนเรียกร้องอยากกิน ที่สำคัญทุกคนได้กินพร้อมเจ้าหน้าที่และทีมวิทยากรด้วย เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณยาย อยากให้เด็กๆๆ ได้อิ่ม ได้กินเหมือนเด็กที่อยู่ข้างนอก เพราะเป็นสิทธิแค่พื้นฐาน คุณยายเมื่อเจอผู้เขียน หรือแม้บางครั้งก็ได้ยินเสียง จะหันมาถามตลอดเวลาว่า “เด็กๆ กินข้าวแล้วยัง เอาให้เขากินให้อิ่มเลยนะ” ความห่วงใยของคุณยายแทรกอยู่ในทุกอณูของคุณยาย ตลอดเวลา
เรื่องอาหารเบรกให้เจ้าหน้าที่คุยกับเด็กและเยาวชนในแต่ละแห่งเอง โดยขอแรงเจ้าหน้าที่จัดหา โดยทางโครงการมีงบประมาณ ครั้งแรกตั้งไว้ 2,500 บาท แต่เมื่อลงไปทำงานสิ่งที่พบคือ ไม่พอจึงให้ใช้งบตามจำนวนเด็กและตามความเป็นจริงของเด็กได้ มีบางแห่งเบิกประมาณ 2,700-3,500 บาท ซึ่งพอเพียงกับเด็กและเยาวชน
มาเริ่มกิจกรรมบันไดงู พี่แขกหาสำนวนที่ให้กำลังใจจำนวนกว่า 100 ข้อความ แล้วปริ้นตัดข้อความเอามาติดฝาผนังห้องประชุม โดยไม่ได้เรียงลำดับหมายเลข
สังเกตการณ์ดำเนินการในกลุ่ม จะแบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่มย่อย กลุ่มย่อยที่หนึ่งจะมีหน้าที่คอยโยนลูกเต๋า ว่าได้หมายเลขอะไร อีกกลุ่มย่อยที่สองจะวิ่งไปหาสำนวนพร้อมทั้งบอกว่าสำนวนนั้นว่าอย่างไร สำหรับเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ พูดภาษาอังกฤษกันได้ดี ยกเว้นเด็กและเยาวชนหญิงที่ไม่มีใครมาบอกเรื่องสำนวนเลย ตัวอย่างการโยน แต่ละ
โยนครั้งที่ 1 ได้หมายเลข 2 มีข้อความ Nothing lasts forever. ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนหรอก
โยนครั้งที่ 2 ได้หมายเลข 6 ให้นับต่อจากครั้งที่ 1 คือหมายเลข 8 มีข้อความว่า Look on the bright side. At least you still have me. มองในแง่ดี อย่างน้อยคุณก็มีฉันอยู่นะ
โยนครั้งที่ 3 ได้หมายเลข 3 นับจากเลขเดิม เป็นหมายเลข 11 มีข้อความว่า Keep on fighting !!!! สู้ๆ นะ
โยนครั้งที่ 4 ได้หมายเลข 2 นับไปเลขเดิม เป็นหมายเลข 13 มีข้อความว่า Chill out !!! .ใจเย็นๆ
มีบางกลุ่มที่โยนเท่าไรก็ได้ทีละหมายเลข 1 ตลอดจึงค่อยๆเคลื่อนไปที่ละแต้ม แต่มีบางกลุ่มก็ได้หมายเลข 6 ตลอดเวลา สุดท้ายก็ตกบันไดงู เสียงหัวเราะของเด็กและเยาวชนดังลั่นห้อง เมื่อกลุ่มไหนที่ตกบันไดลงไป ก็จะมีเสียงตระโกนบอกว่าเดินทางอย่างระมัดระวังนะ อย่าใจร้อน ใจเย็นๆๆ ทุกทางที่เดินมีหลุมพรางของตัวเองตลอดเวลา
หมายเลขที่แต่ละกลุ่มจะซ้ำเสมอ เช่น ข้อ 14 ข้อความว่า Don’t discourage ! อย่าเพิ่งท้อแท้ไปเลย
หมายเลข 17 ข้อความว่า Don’t think too much. อย่าคิดมากไปเลยนะ
หมายเลข 19 ข้อความว่า I will encourage you. ฉันจะเป็นกำลังใจให้นะ
หมายเลข 23 ข้อความว่า Be strong = เข็มแข็งไว้นะ
แต่ละกลุ่มที่โยนไปถึงประมาณ หมายเลข 81 ประมาณนั้น แต่การเล่นครั้งนี้สอดแทรกข้อความดีที่เด็กอ่าน แล้วมาร่วมกลุ่มกันอีกครั้งมาสรุปในกิจกรรมครั้งนี้
สิ่งที่ได้ประโยชน์ในกิจกรรมนี้คือ...
(1) การทำงานเป็นทีมของกลุ่มสำคัญมาก การเดินทางของกลุ่มต้องอาศัยทุกคนในกลุ่ม ความรับผิดชอบของแต่ละคนถึงทำให้กลุ่มไปถึงจุดหมายปลายทาง
(2) ระหว่างทางเดินของบันไดแต่ละครั้งอุปสรรค์ก็มีตลอดเวลา และสิ่งที่สำคัญทุกคนต้องเข้ามาร่วมจัดการกับปัญหา แต่ทุกครั้งบทเรียนของชีวิต ที่เอาชีวิตของพวกเราเป็นเดิมพัน
(3) การส่งต่อกันระหว่างคนโยนลูกเต๋ากับคนวิ่งหาข้อความหมายเลขต้องประสานงานเป็นหนึ่งเดียวกัน
สิ่งสำคัญทุกการเดินทางของชีวิตมีปัญหา อุปสรรค์ ตลอดเวลา ต้องใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ เหมือนที่พวกเราวิเคราะห์ตัวตน เอามาเป็นหลักการดำเนินชีวิต เอาชีวิตไปเสี่ยง
พี่เกื้อย้ำเตือนอีกครั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเองของนกอินทรีย์
แทงบอล ซอคเกอร์ลีก คะแนนฟุตบอล