banner
พุธ ที่ 7 เดือน เมษายน พ.ศ.2564 แก้ไข admin

บัตรประชาชน กับทะเบียนบ้านกลาง ของเด็กเร่ร่อน

 

นางสาวทองพูล  บัวศรี

ผู้จัดการโครงการครูข้างถนน  มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก

         

โทรศัพท์ ดังลั่น...ในวันที่ครูเตรียมลงพื้นที่ นำสิ่งไปแบ่งปันกันที่พื้นที่บ่อนไก่

ครูค่ะ   ...หนูอยากให้ลูกอีกคนของหนูมีบัตรประชาชน  เด็กมีพี่น้อง 3 คน  ครูเคยเจอ เจ้าอังแล้ว  เป็นพี่ขอเจ้าหนึ่งไง .....

เด็กผู้ชายที่ครูเคยเจอ  มันก็มานอนใต้ทางด่วนที่สุขุมวิท    ครูเคยจะพาไปทำเอกสาร  แล้วมันบอกว่าให้พี่สาวออกมาจากเรือนจำก่อนไง....ครู

ตอนนี้ (เมื่อประมาณเดือนกันยายน  2563 ) ในขณะนั้น  พ้นโทษออกมาแล้ว ต้องการมีบัตรประชาชน ตอนถูกจับทำบัตรประชาชนหาย  เมื่อเข้าไปอยู่ในเรือนจำไม่มีบัตรอะไรแสดงตัวตน  เพียงแต่จำเลขบัตรประชาชนได้  ท่องให้เจ้าหน้าที่เขาจด  แล้วค้นหา 

ตัวเจ้าอังเอ็ง อ่าน/เขียนไม่ได้เลย  ได้เรียนแต่ไม่ได้เรียนหนังสือในระบบเลย 

ด้วยครูเองความรู้น้อยนิด  ในงานทะเบียนราษฎร  กรณีคนไทยแท้ๆ  โทรประสานงานหาความรู้  คนที่อธิบายให้ก็เอาแต่แง่กฎหมาย อธิบาย โน้น นั้น นี้  ครูเองฟังแล้วปวดหัวมาก  และเป็นวันที่ครูพา เจ้าอัง .....ไปสำนักงานเขต....แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร

ครู....พูดแบบนอบน้อม     นำนางสาว....ดวงกมล ..มาทำบัตรประชาชน

เจ้าหน้าที่.....ขอเช็คก่อน.....  ครูเด็กมันอยู่ในทะเบียนบ้านกลาง

                ครูไม่รู้เลยหรือ!!!!!!!!!.....ว่ามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลาง....ทำอะไรไม่ได้

ครู.....ขอคำแนะนำหน่อยได้ไหม......

เจ้าหน้าที่.......ไม่ว่างเห็นไหม  คนทำบัตรประชาชนเยอะไปหมด....

ครู.....เงียบ แต่ด้วยความรู้อันน้อยนิด....เดินคอตกออกไปว่าจะทำอย่างไร

คุยกับอังว่าจะต้องเริ่มต้นใหม่  ครูอยากรู้ขั้นตอนในการดำเนินการจากสิ่งที่มีอยู่แล้วทำอย่างไร  ไม่ใช่พูดแค่นี้  ไม่อธิบายใดใด ทั้งสิ้น

 

อังมามองหน้า  ครูเอาจริงหรือ เอาจริงซิ....มาถึงขนาดนี้แล้ว  อย่างไรก็ต้องบอกขั้นตอนการทำงานต่อไปจะได้ดำเนินการได้ถูก

ครูก็เริ่มกดบัตร  เรื่อง  “งานทะเบียนบ้าน” ใหม่อีกครั้ง

นั่งคอยกันไปกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งถึงจะถึงคิวครู  

เจ้าอังก็เริ่มพูดคุย  ว่าเป็นครอบครัวเร่ร่อน พร้อมแม่กับพี่/น้อง ทั้งหมด 4 ชีวิต ใช้พื้นที่ถนน นอนไปเรื่อยๆ จนแม่ป่วยหนักมาก 

ตำรวจส่งตัวแม่พร้อมเด็ก เด็ก ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์   ใช้ชีวิตนอนในโรงพยาบาลรวม 2 เดือน  ด้วยแม่เป็นวัณโรค/เป็นมะเร็งกวยที่ไตด้วย  อาการต่างๆ ขอแม่จึงทรุดลงอย่ารวดเร็ว   

พยาบาลได้โทรประสานงานกับนักสังคมสงเคราะห์ที่โรงพยาบาลก่อน ทางพยาบาลได้จัดที่นอนให้เด็ก เด็ก อยู่กับแม่

ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ประสานหาที่อยู่เอารายชื่อเด็ก 3 คน เข้าทะเบียนบ้าน ของหน่วยงานองค์กรเอกชนแห่งหนึ่ง.....แถวดอนเมือง  เด็กหญิงอังจึงได้ทำบัตรประชาชนก่อน  ส่วนน้องอีก 2 คน ยังไม่ได้ดำเนินการ

ชีวิต 2 เดือนที่อยู่ในโรงพยาบาล เด็กได้รับความกรุณา ความเมตตาจากทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องอาหาร 3 มื้อ (ซึ่งบางมื้อแม่กินไม่ได้เลย ) 


 

ด้วยลมหายใจของแม่แผ่วเบาลงเรื่อยๆ  บางเสียงดูแลลูกฉันด้วย

จนถึงวันที่แม่ตาย  ทางโรงพยาบาลได้ประสานงานกับสถานสงเคราะห์ ในการรับตัวเด็ก  ส่วนศพของแม่ก็ให้ทางมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง  ดำเนินการนำศพไปฝังแบบคนไร้ญาติ

เด็กทั้ง 3 คน ก็อยู่ในสถานสงเคราะห์ จนปีกกล้า ขาแข็ง  ก็เริ่มหากระบวนการ/วิธีการหนีออกจากสถานสงเคราะห์ของรัฐ  ด้วยเหตุผล  ต้องการอิสระ

สำหรับอัง....หนีออกมา  มาอยู่ใต้ทางด่วนคลองเตย   แล้วนอนหลับอีกครั้งที่สะพานลอย สุขุมวิท 2  อยู่อย่างยาวนานมาก ที่บ้านเกร็ดตระการ  จนอายุเกินถูกส่งไปยัง สถานฝึกอาชีพสตรีภาคกลาง  จนเรียนอาชีพสำเร็จ ด้วยโปรแกรมการนวดแผนไทย (สปา/จับเส้น)

เมื่อพ้นการฝึกอาชีพ  ก็ยังมาอาศัยนอนที่ใต้ทางด่วนสุขุมวิท แล้วได้งานที่ร้านนวด  ที่สุขุมวิท 3  รายได้พอเลี้ยงตัวเองและน้องชายที่ ชื่อนายหนึ่ง  ขุนอินทร์  (มีเอกสารใบเกิด  แต่นายหนึ่งยังมิได้ ไปดำเนินการใดๆเลย  มีใบเกิด  ชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลาง)

เมื่อปลายเดือนตุลาคม ปี 2562 เริ่มมีอาการโควิด-19 ระบาดจากนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวซอยนานา   ร้านนวดเริ่มลดคนในการทำงาน  พร้อมกับอังมีแฟน เอามอเตอร์ไซด์แฟน ไปขับ แล้วแจ้งจับว่าลักขโมยมอเตอร์ไซด์    บัตรประชาชนถูกยึดไป แล้วทางสถานีตำรวจแห่งหนึ่งทำหาย  ติดตามไป 3-4 ครั้ง  ก็บอกว่าหาไม่เจอ

จนเจ้าอัง.......... ถูกปล่อยตัวมา  กลับมาอาศัยที่ใต้ทางด่วน  เพียรพยายามไปทำบัตรประชาชนด้วยตนเอง 2-3 ครั้ง  ทำไม่ได้เพราะชื่อ อยู่ในทะเบียนบ้านกลาง



แม่อุ้มที่อาศัยอยู่ด้วยกัน  บอกว่าโทรหาครูจิ๋วให้ ครูจิ๋วพาไปยังสำนักงานเขต...

จนเมื่อวันที่  9 พฤศจิกายน  2563  ไปสำนักงานเขต.....ทำไม่ได้ชื่อชื่อทะเบียนบ้านกลาง  ทำอะไรไม่ได้  ไปย้ายชื่อเด็กออก แล้วหาทะเบียนบ้านลง  ถึงจะทำบัตรประชาชน  ฉันไม่มีเวลาอธิบายอะไรทั้งนั้น  มันเป็นหน้าที่ที่ประชาชนควรรู้   เพราะมันเป็นกฎหมาย

ครูก็นั่งคอย  คอยว่าต้องมีคนอธิบายกระบวนการเดินต่อสำหรับ การช่วยน้องอัง.....

น้องอัง....พยายามที่จะปลอบครู   แต่ครูต้องการทำ  ในขณะที่นั่งมีผู้คนมาทำบัตรประชาชน  มีรายหนึ่งที่มาจากต่างประเทศ  ไม่มีบัตรประชาชน  มาทำบัตร   เด็กหนุ่มหน้าตาดี อธิบายอย่างนิ่มนวลมาก

ครูบอกน้องอัง......กดคิวบัตรให้ครูใหม่....รอน้องคนนั้นที่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนบ้าน  อธิบายและบอกขั้นตอนการทำงานอย่างเข้าใจแล้ว ครูเดินเรื่องต่อได้.....

ครูเริ่มต้นจากขั้นตอนที่ผม

1.ทางเจ้าหน้าที่ปริ้นเอกสารของ น.ส. ดวงกมล....ให้  ว่า “แบบรับรองรายการทะเบียนราษฎร  จากฐานข้อมูลการทะเบียน สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง  กระทรวงมหาดไทย”

ได้มีบันทึกเพิ่มเติม  “บุคคลนี้อยู่ในทะเบียนบ้านกลางไม่สามารถใช้ยืนยันรายการที่อยู่และสถานะบุคคลนั้นได้ ”  ในปัจจุบันมีคนที่ถูกจำหน่ายจากทะเบียนบ้าน ให้ไปอยู่ทะเบียนกลาง จำนวน

เมื่อครูได้เอกสารชิ้นนี้มาแล้ว  ให้ครูทำอย่างไรอีกตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

2.ให้ครูพาตัวไปยังสำนักงานเขต ที่ระบุ...ไว้ในหนังสือว่าอยู่ ทะเบียนบ้านกลาง  ของสำนักเขตอะไร   หรือถูกโอนให้ไปอยู่ทะเบียนบ้านกลาง ของ กระทรวงมหาดไทย

3.หาเจ้าของบ้าน/หรือหน่วยงาน รับเข้าทะเบียนบ้านก่อน   โดยการดำเนินงานของ เจ้าของบ้าน  แล้วนำชื่อเข้าทะเบียนหลังนั้น  ถึงจะทำบัตรประชาชน...ได้

ในขณะนั้นโทรประสานกับทีมงานบ้านสร้างสรรค์เด็ก ......โดยทางครูซิ้มเป็นเจ้าบ้าน  บ้านสร้างสรรค์เด็ก  ขอปรึกษา และมอบ ครูซิ้มดำเนินการต่อ

ด้วยทางโครงการครูข้างถนน และโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่  มีภาระหลายเรื่องเพราะโรคโควิด-19  รอบ 2  มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563  จนมาถึง เดือนกุมภาพันธ์  2564  ต้องลงพื้นที่แบ่งปันสิ่งของ/พร้อมมีภาระ ที่ต้องการกรณีเด็กที่ขายพวงมาลัย/ขายดอกจำปี



ทุกอย่างมาเริ่มดำเนินการให้ เจ้าอัง.....เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์   2564

ครูซิ้ม ขับรถไปรับ  เพื่อดำเนินการ  พอเห็นหน้าครู....เจ้าอังรีบบอกว่า  นึกว่าครูจิ๋วเท...แล้ว ครูเองต้องบอกว่า งานทุกอย่างที่ทำมันไม่ได้ง่าย   ครูซิ้มต้องไปดำเนิน

1.ครูซิ้มไปติดต่อ ที่ฝ่ายทะเบียนของสำนักงานเขตดอนเมือง  เรื่องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลาง เขตดอนเมือง   เมื่อไปถึงชื่อ....ของเจ้าอัง  ถูกจำหน่ายไปอยู่ทะเบียนกลาง ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

ทางฝ่ายทะเบียน สำนักงานเขตดอนเมืองแนะนำ ให้ครูซิ้มไปดำเนินการที่เทศบาลลำลูกกา  อำเภอลำลูกกา   จังหวัดปทุมธานี

2. ครูซิ้มพร้อม ผู้ช่วยครูรักษ์ยิ้ม  ภูรีเลิศ  พร้อม นางสาวดวงกมล  ขุนอินทร์   ไปที่เทศบาลลำลูกกา  ก่อน  เจ้าหน้าที่บอกว่าทั้งหมดนี้  ต้องทำตามนี้

-นำรายชื่อ  นางสาวดวงกมล   ขุนอินทร์   เข้าที่ทะเบียนบ้านสร้างสรรค์เด็ก   เรียบร้อยแล้ว

-ฝ่ายทะเบียนบ้าน เทศบาลลำลูกกา แนะนำให้ไปที่เทศบาลคูคต  อำเภอลำลูกกา

-ติดต่อฝ่ายทะเบียนทำบัตรประชาชน ที่เทศบาลคูคต  อำเภอลำลูกกา  จังหวัดปทุมธานี  เพื่อดำเนินการทำบัตรประชาชน