banner
พุธ ที่ 9 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2560 แก้ไข admin

บ้านพัก ณ.ศูนย์ราชการ โรงเรียนตู้.....



นางสาวทองพูล  บัวศรี

ที่ปรึกษาโครงการศูนย์เด็กก่อสร้าง  มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก   
     

        เวลาที่ต้องไปประชุมที่ศูนย์ราชการ มักจะใช้เส้นทางด้านหลัง  ส่วนมากตอนนี้ใช้มอเตอร์ไซด์เป็นส่วนใหญ่  ด้วยเหตุผลว่า เร็ว และเข้าด้านหลังไปต้องผ่าการจราจรที่ติดมาก  ของถนนแจ้งวัฒนะ  ทุกเวลารถติดเหมือนกันหมด

          การนั่งมอเตอร์ไซด์  ทุกครั้งเมื่อมองไปจะเห็น สภาพพักคนงานก่อสร้างที่สร้างเป็นสองชั้น  มุงหลังคาด้วยสังกะสีสีเขียว  จำนวนกว่า 15 หลัง  ซึ่งบ้านพักอยู่กันมานานกว่า  2 ปีแล้ว   สิ่งที่ซ่อนอยู่ในบ้านพักเหล่านี้มีมากมายจริง

          มีเด็กที่ติดตามพ่อแม่มาอีกคน  เป็นเด็กไทยหรือเด็กต่างด้าว  มากน้อยเพียงไหน  เด็กที่เข้าเมืองผิดกฎหมายแล้วเวลาที่เกิดแม่ไม่ได้ไปแจ้งเกิด มีบ้างหรือเปล่า  

          การตั้งคำถามของคนทำงานด้านนี้ ......

          มีโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่  ของมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ลงไปทำกิจกรรมตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน  มีทั้งเด็กไทยและเด็กต่างด้าว ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา จำนวน  25 คน ตั้งแต่อายุ 3 ปี ขึ้น จนถึงอายุ 11 ปี

          เด็กไม่ได้เรียนหนังสือต่อในระบบโรงเรียน  ซึ่งถึงวัยเข้าเรียนแล้วจำนวน 1 ครอบครัว  ครูไพโรจน์  จันทะวงศ์   กับ ครูมลวิภา  ลีลายุทธ   ได้ลงไปคุยกับครอบครัว  มีลูกคนโต ชื่อน้องฟ้า  อายุ 11 ปี  เคยเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษา ปีที่ หนึ่งมาก่อน  มีพ่อเป็นคนไทย แม่เป็นชาวกัมพูชา  น้องฟ้าคือเด็กไทย พร้อมมีน้องชายอีกสองคนที่ทั้งพ่อและแม่เป็นกัมพูชา  ทุกคนอยากเรียนหนังสือ  แต่ด้วยความที่พ่อแม่ไม่รู้ ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร  เด็กจึงหมดโอกาส  จนได้มาพบครู   ครูจึงเริ่มดำเนินการ


 

          คุยกับพ่อแม่ของเด็ก   ครอบครัวยอมให้เด็กทั้งสามคนได้เข้าเรียน  ถึงแม้จะเปิดเรียนมา สองอาทิตย์แล้วก็ตาม

          พาครอบครัวไปพบท่านผู้อำนวยการโรงเรียนทุ่งสองห้อง อยู่ด้านหลังของบ้านพักกรรมการก่อสร้าง ของบริษัทชิโนไทย ที่ครอบครัวพักอยู่    ทางโรงเรียนรับให้เข้าเรียนได้  แต่ค่าใช้จ่ายบางอย่างผู้ปกครองต้องจ่ายเพิ่ม

          ครูได้มามาประสานงานหาเครื่องใช้รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์การเรียนการสอนที่บ้านอุปถัมภ์เด็ก  พร้อมชุดนักเรียนที่จะแบ่งปันกันได้

          สำหรับครอบครัวนี้ น้องฟ้าเคยเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 พ่อเป็นคนไทย แม่คือกัมพูชา ในตอนนี้มีหน้าที่เลี้ยงน้อง เพราะมีน้องชายอีกสองกัน ซึ่งแม่มีสามีใหม่  น้องฟ้าต้องช่วยแม่ในการเลี้ยงดูทั้งสองคน  มีเจ้าหน้าที่ไปแนะนำ  แต่ช่วงนั้นให้น้องฟ้าไปเรียนหนังสือแล้วใครจะดูแลน้องอีกสองคน  จึงต้องเปลี่ยนแผนใหม่ให้เด็กทั้งสามคนเข้าเรียน

          ครอบครัวน้องฟ้า พร้อมกับ 5 ชีวิต ได้เดินทางไปโรงเรียนทุ่งสองห้อง  ผู้อำนวยการรับเข้าเรียนทันที  ในขณะที่โรงเรียนเปิดเรียนไปแล้ว สามสัปดาห์ไม่มีคำถามใดใดในการเป็นรับเข้าเรียนเด็กลูกกรรมกรก่อสร้างต่างด้าว  ให้คำแนะนำในเรื่องการซื้ออุปกรณ์การเรียน สมุก ดินสอ พร้อมชุดของโรงเรียน  แต่ครอบครัวไม่ต้องจ่ายค่าเรียนคอมพิวเตอร์และค่าครูสอนภาษาอังกฤษและภาษาจีน  ชุดนักเรียน     ส่วนกระเป๋า รองเท้า บางส่วนได้รับการแบ่งปันจากบ้านอุปถัมภ์เด็ก


          ทั้งสามพี่น้องได้ไปโรงเรียน กลายเป็นครอบครัวตัวอย่างในบ้านพักกรรมกรก่อสร้าง เพราะเด็กไทยหนึ่งคน เด็กกัมพูชา สองคน ได้เรียน  ครูซิ้มได้นำการใฝ่รู้ทั้งครอบครัวไปบอกเล่ากับคนในบ้านพักให้เห็นความสำคัญของการศึกษา    ทั้งพ่อและแม่บอกว่าไม่รู้ว่าจะขอบคุณครูอย่างไร  ทำให้ลูกของเขาได้เรียนหนังสือ  ไม่ต้องใช้คำว่าอยากให้เรียน  แต่เป็นเด็กได้เรียนเรียบร้อย

          น้องฟ้าบอกว่าเป็นชุดนักเรียนที่สวยที่สุด เพราะหนูอยากเรียน    หนูหยุดเรียนมาตั้งสองปีแล้วที่ดูแล  และที่สำคัญน้องของหนูก็ได้เรียนด้วย  อ่าน เขียน-พูด ฟัง  ภาษาไทยได้มากขึ้น   ถึงแม้ว่าหนูต้องมาเรียนชั้นเดียวกับน้อง  หนูก็มีความสุขนะครู   กราบแบบงาม งาม  ตรงใจครูเลย

          สำหรับอีกเคสหนึ่งเป็นเคสที่พิการมาตั้งแต่กำเนิด  สาวน้อยเดินไม่ได้เลย  อยากให้ครูช่วย  ทั้งครูไพโรจน์  และครูมลวิภา    ได้มีการประสานงานกับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมของรถเข็นมือถือที่ยังใช้ได้อยู่   มาให้น้องพลอย(นามสมมุติ)คนสวย    ใช้เวลาที่ต้องการออกจากห้องพักที่เป็นชั้นล่าง

สภาพบ้านพักของบริษัทชิโน่ไทย  มีคนงานที่เป็นทั้งคนไทยและชาวต่างด้าว (ทั้งชาวกัมพูชา พม่า ลาว และชนกลุ่มน้อย)   บริษัทรับแบบไม่อั๋น    สร้างด้ายสังกะสีสีเขียว  มีการตีรั่วรอบตัวบ้านพักกรรมกรก่อสร้าง   แต่ในสภาพห้องพักในไม้อัดรองเป็นพื้น  ยกพื้นสูงประมาณ หนึ่งฟุต สูงจากพื้น   พื้นไม่มีการการเทปูน  เวลาฝนตกก็เละพอสมควร  เพราะใช้ไม้กระดานพาดเดินกัน     อันตรายสำหรับเด็กเป็นอย่างมาก



ห้องน้ำ ห้องส้วม มีพอประมาณ แต่ถามว่าพอไหม  คนงานได้แต่ยิ้ม  ใช้กันไป อดทนกันไป  เขาอยู่กัน  เราก็อยู่ได้เหมือนกัน    ทุกคนบอกอย่างนั้น    ชีวิตเร่ร่อนมีสิทธิเลือกอะไร   มีงานให้ทำ ไม่ถูกจับ     คนงานกัมพูชาบอกก็บุญมาโขแล้ว     ชีวิตไม่มีสิทธิเลือก  เลือกมากก็อดตายอย่างเดียว    อยู่ไปทำไป    พอเลี้ยงครอบครัวได้ก็ทนเอา   สภาพที่อยู่อาศัย  ณ...ศูนย์ราชการ   จึงเป็นเพียงแค่ชื่อที่หรูหรา เท่านั้น    คนงานเลือกที่อยู่กับบริษัทก็อยู่กันไป

ครอบครัวน้องพลอย  ถึงจะอยู่ชั้นล่างของบ้านพัก  โอกาสที่จะออกมานอกห้องพักแทบจะสิ้นสิทธิเลย      พอได้รถเข็นมา  น้องพลอยเป็นเด็กที่มีโอกาสได้ออกมาจากบ้านพักบ้างเป็นครั้งคราว    แต่ด้วยภาระของแม่ที่ต้องดูแลน้องพลอย   รายได้ของครอบครัว จึงมีเพียงคนเดียว   หาเช้าไม่พอตอนค่ำ   รายได้ไม่พอรายจ่าย  เสียงทะเลาะกับสามีใหม่จึงเกิดขึ้นเป็นประจำ    จะให้ทิ้งลูกไว้ห้องคนเดียวก็กลัว ก็ห่วง      กลัวแต่สามีใหม่จะทำร้ายน้องพลอย เพราะช่วงตนเองไม่ได้    ไม่ชอบพ่อเลี้ยงเอาเลย  เพราะเขาเสียงดัง  เวลาเมามาข้าใหญ่สุด...

ตอนนี้ฉันกับน้องพลอยอยู่กันตามลำพัง  พ่อใหม่ของน้องพลอยเขาเก็บข้าวของหนีไปแล้ว    ทุกอย่างจึงตกอยู่ที่ฉัน   ค่าใช้จ่าย ค่านม ค่าอาหาร   เป็นภาระหนักมาก    ครูช่วยหาสถานที่ ฝากเลี้ยงก่อนชั่วคราว   ฉันไม่ได้ต้องการจะทิ้งนะ  ขอเพียงเวลาที่ต้องหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว  พยุงสองแม่ลูกให้เดินไปได้   โอกาสจะกลับมาอยู่ด้วยกันอย่างครอบครัว    ความจำเป็นจริงๆ  

ครูซิ้ม ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง    ในการฝากเลี้ยงและการดำเนินการ  ในการจัดการเรียนการสอน  กายภาพบำบัด  เพื่อให้แขนขาได้ทำงาน    งานบางอย่างจะได้ให้น้องพลอยทำ  ช่วยเหลือตนเอง  ทั้งการกินและการขับถ่าย      เงินสนับสนุนคนพิการเดือนละแปดร้อยบาทไม่พอยาไส้กับสองชีวิต   ที่ไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่งได้แต่ อาศัยบ้านพักกรรมกรก่อสร้างที่อพยพเคลื่อนย้ายไปเรื่อยๆ  เป็นที่ซุกหัวนอนของสองแม่ลูก


การจัดการเรียนการสอนเป็นทุกวันจันทร์ของสัปดาห์  เด็กน้อยจะคอยโรงเรียนรถตู้เคลื่อนที่  เด็ก เด็ก เขาเรียกว่า  โรงเรียนตู้เคลื่อนที่   ตัวรถเหมือนตู้ใส่หนังสือตามโรงเรียนเลย  แถมด้วยข้างนอกตัวรถเป็นหน้าเด็กที่ยิ้ม     เด็ก เด็ก บอกว่าถ้ารถคันนี้วิ่งไปตามหมู่บ้าน  เด็กวิ่งกันมาแน่ๆ เพราะคิดว่าเป็นรถฉายหนังกลางแปลง แถมด้วยขายยาแก้ปัญหาสารพัดโรค     ตอนที่กินก็ดูกระชุ่มกระช่วย ดี  แต่ซื้อกลับถึงบ้านมันเหมือนซื้อน้ำเปล่ากลับบ้าน

สำหรับโรงเรียนตู้มีกิจกรรมที่หลากหลายมาก  ตั้งแต่การอ่าน ก. กอไก่ ถึง  ฮ. นกฮูก  ตาโต   มีคำร้อยกลอน  ที่ให้เด็กท่องตั้งแต่     เสียงดังโครมคราม     ปั่นจั่นสูงใหญ่      อย่าเข้าไปใกล้อันตรายมากมี     จะเดินจะวิ่งระวังให้ดี      เครื่องจักรนะซิกำลังทำงาน    อย่าเข้าวิ่งเล่นในที่ก่อสร้าง....อันตรายทุกอย่าง   พลาดพลั้งถึงตาย ...

ระบายสี  เป็นยอดปรารถนาของ   ณ. ศูนย์ราชการ    เด็กจะชอบมาก  ต้องเตรียมชุดการเขียนตามรอย  และการระบายสี   ตามรอยกรอบที่ครูทำให้    พร้อมสีไม้กล่องเล็ก    โปรดปรานคือการดูทีวีเป็นนิทานเพลง  และนิทานเล่าเรื่อง    โรงเรียนตู้ของเด็ก เด็ก  จะเข้าไปจอดตามต้นไม้ และขอใช้ไฟของพ่อบ้านมาเชื่อมกับโรงเรียนตู้     เด็กจะนอนดูอย่างมีความสุข  ยกเว้นวันที่ฝนตก  โรงเรียนตู้เขาไปไม่ได้   วันนี้แหละเด็ก เด็ก จะเข้ามาช่วยขนอุปกรณ์  ไปอยู่ห้องพักชั่วคราว   กลายเป็นโรงเรียนชั่วคราว    เสียงของเด็ก เด็ก  ก็จะดังด้วยหัวเราะ   เสียงท่องคำร้อยกลอน   ร้องเพลงบ้าง   เป็นสีสันที่อยู่ภายใต้  บ้านพักคนงานใต้สังกะสีสีเขียว ......