banner
ศุกร์ ที่ 28 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2559 แก้ไข admin

ผมก็รักในหลวง ..หนูก็รักในหลวง



นางสาวทองพูล บัวศรี

ที่ปรึกษาโครงการศูนย์เด็กก่อสร้าง มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก

 

                   เด็กอีกกลุ่มหนึ่งที่มาอาศัยอยู่ในเมืองไทย คือกลุ่มเด็กลูกกรรมกรก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นเด็กนานาชาติ มีทั้งกัมพูชา ลาว พม่า จาม โรฮิยา เป็นต้น เด็กลูกกรรมกรก่อสร้าง แค่มีอยู่มีกินในแต่วันก็พอแล้ว  กับการที่จะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้กับเด็ก/ลูก หลานของแต่ละคนก็ยากมาก  ยิ่งในขณะนี้ได้มีเน้นการใส่เสื้อผ้าสีดำ สีขาว หรือสีเข็ม เข็ม  หรือใช้ริบบิ้นสีดำก็ได้

                   สองวันนี้ ได้พยายามเดินหาซื้อริบบิ้น ซึ่งก็ขึ้นราคา และตั้งใจว่าวันนี้จะมาสอนเด็กทำริบบิ้นติดเสื้อกัน แทนการใส่เสื้อสีดำ หรือสีขาว  ครูเองก็ตั้งใจใส่เสื้อสีดำ ติดริบบิ้นสีดำที่ทำเอง (ทดลองหลากหลายแบบก่อนที่จะต้องไปสอนเด็ก  ต้องทำให้ชำนาญก่อน ไม่อย่างนั้นอายเด็ก)

                   วันนี้ใครเห็นอะไรที่เสื้อครูบ้างเริ่มต้นกับคำถามเด็กชี้ให้เด็กสังเกต อยากรู้ อยากถามเห็น สวยไหม  เด็กตอบเสียงดังว่าสวยจัง  แค่คำถามเหล่านี้ คำตอบก็มาจากปากเด็กงานนี้สำเร็จแล้ว  ถามต่อว่าอยากทำไหม อยากเอาไว้ติดเสื้อสีที่พวกเราใส่ไหม ทุกคนตอบพร้อมกันว่าอยากทำ  งานนี้ง่ายมากขึ้นที่จะสอน เพราะเด็กมีความตั้งใจในการเรียนรู้ และมีความอยากทำในตัวเอง ใครมีแล้วบ้าง ไม่มีเสียงตอบจากปลายสายที่ครูถามทุกคนเงียบกันหมด

                   วันนี้มีนัดสัมภาษณ์ที่ศูนย์เด็กก่อสร้างด้วย ซึ่งใช้เวลากว่าสองชั่วโมง หันไปบอกเด็ก เด็ก ก็สบตาครูเป็นระยะ ระยะ มีบางคนส่งเสียงมาว่านานจัง อยากทำแล้วนะ จึงรีบให้สัมภาษณ์ปิดเกมก่อน ก่อนความอยากของเด็ก เด็ก จะหมดความอดทนการอคอย

                   ครูจึงเริ่มเอาริบบิ้นมาตัดความยาวหนึ่งไม้บรรทัด  ไม่มีโอกาสถามไถ่อย่างอื่น  อธิบายที่ละขั้นตอน  ครั้งแรกไม่มีเด็กทำได้เลย  ทุกคนมองที่นิ้วมือครูคิดว่าทำได้ ง่ายๆ แล้วก็รีบลงมือทำกัน ไม่เป็นรูปริบบิ้นหรือโบว์แสนสวย  ครั้งที่สอง ได้เป็นที่ทำได้สอง  ครั้งที่สาม ได้มาสี่คน ครั้งที่สี่ ได้เพิ่มมาอีก สอง ทั้งแปดคน ให้ไปสอนน้องที่ละคน  คนที่ทำได้แล้วเรียงแถวมาหาครู เพิ่มการตกแต่งด้วยเม็ดมุกตรงการโบว์  เพิ่มความสวย 




                   เด็ก เด็ก เรียงแถวมาหาครู  ครูถามว่าใครสนเข็มเป็นบ้าง ใครเย็บเป็นบ้างช่วยครูสองคน เพราะมีน้องกว่ายีสิบคน  ครูไพโรจน์ก็รอครูกินข้าวกลางวันปานเข้าไปบ่ายสามแล้วยังไม่ได้กินข้าวเลย  จึงขอเวลากินข้าว 7 นาที  เด็กรอลุ้นมองที่ครูนั่งกินข้าว  เพราะเขาอยากได้โบว์ติดเสื้อกันแล้ว

                   ครูถามต่อว่าใครจะใช้สีดำล้วนก็ได้นะ  แต่ที่เพิ่มมุกเพราะว่าพวกเราจะใช้กันนาน และเย็บติดเพื่อแน่นมากขึ้นจะได้ไม่หลุดง่ายๆ  เริ่มน้องเฮียงก่อน เป็นเด็กผู้หญิง ผมยาว ตาสวยมาก คุยว่าทำไหมอยากได้โบว์  น้องเฮียงบอกว่าอยากแสดงความรักในหลวง  เพราะในหลวงให้เข้ามาทำงานที่เมืองไทยได้  แม่บอกว่าถ้าไม่มีเมืองไทยน้องกับพี่และพ่อแม่ต้องอดตายแน่  เพราะไม่มีงานทำ  และในหลวงของเมืองไทยมาก  ไปซื้อโบว์แบบนี้อันละ 20 บาท ไม่สวยเท่าที่ครูสอน  น้องของสองอันนะ ทำให้แม่ด้วย พี่ชายกับพ่อมีแล้ว  แล้วยิ้มอย่างปลาบปลื้ม

                   คนที่สองเป็นเด็กผู้ชาย ชื่อชัย  ตัวโตกว่าเพื่อน อายุ 13 ปี ไม่เคยเรียนหนังสือมาเลย แต่อยู่กับศูนย์เด็กก่อสร้างมาแล้วสามปี บอกว่าผมขอ สี่อันนะครูจิ๋ว  ทำให้ครบเลย  เพราะพ่อกับแม่และพี่ชาย บริษัทให้ติดโบว์ดำ เพราะพ่อกับแม่ใส่เสื้อสีลายสกอตเพราะต้องอยู่กลางแดด ถ้าใส่สีดำจะร้อนมาก  ครอบครัวผมทั้งครอบครัวรักในหลวงของเมืองไทย เพราะทำให้พวกผมได้มีเงิน ได้มีงาน ได้เก็บเงินบางส่วนไปปลูกบ้านที่กัมพูชา  ผมอ่าน เขียน พูด ฟัง ภาษาไทย เพราะได้เรียน อย่างน้อยผมก็เขียนชื่อตัวเองได้ สอนพ่อ แม่ พี่ชายเขียนชื่อตัวเองเวลารับเงินค่าแรง  เพราะในหลวง ผมจึงอยากติดโบว์สีดำครับ ผมดีใจมากที่ได้โบว์ดำวันนี้แล้วมันเป็นฝีมือของผมทำให้ครอบครัว


                   คนที่สามเป็นเด็กผู้หญิง ผมยาวมาก ตัวดำ แต่ตาคมมาก พูดจาฉะฉานมาก มีพี่อีกคนและน้องอีกหนึ่งหลานอีกคน  ทั้งสี่คนพี่น้องมาอยู่ที่ศูนย์เด็กก่อสร้างหมดเลย  แต่น้องไว ทำงานเร็วมาเป็นเด็กที่หัวไว ทำอะไรคล่องมากเอาตัวรอดสูง  ครูถามว่ารู้จักในหลวงด้วยหรือ  เขามองหน้าครู  รู้จักซิครู ข่าวในโทรทัศน์มีทุกวันเลย  หนูอยากไปไหว้ในหลวง  ครูพาหนูไปหน่อยซิ  แต่พวกหนูไม่มีเสื้อผ้าสีดำหรอกนะ  เขาให้เฉพาะคนไทยหรือเปล่าหนูนั้นอยากไป  อยากเห็นพระราชวังของในหลวง อยากเห็นสนามหลวงของเมืองไทย   ครูก็เลยถามต่อคือไปสนามหลวงของกัมพูชาไหม น้องไวตอบว่าไม่เคย เพราะบ้านอยู่เมืองกำธมปง  อยู่ไกลจากพนมเปญมาก  แต่พวกหนูอยากไปนะครู  แล้วที่ทำโบว์หนูขอทำเผื่อสักสอง-สามอันได้ไหม  ได้จ๊ะ แต่ของวันนี้ไม่พอเดี๋ยวอาทิตย์หน้าครูหาซื้อของมาทำเพิ่มกันนะ จริง จริง นะครู  หนูอยากได้หลายอันใช้สลับกัน มีหลายแบบใช่ไหม  หนูจังทำออกมาแล้วสวยดีน่าใช้มาก  หนูทำขายได้ไหม ได้จ๊ะแต่ตอนนี้ลงทุนสูง  ส่วนมากเขาทำแจกกันจ๊ะ  ในแหล่งก่อสร้างไม่เห็นใครเอามาแจกเลยครู  ดีจังที่ครูมาสอนให้ทำ  พี่คนโตรีบพูดแทรกเข้ามาทันที ครูพวกหนูอยากไปไหว้ในหลวง อยากไปสนามหลวงเห็นแต่ในโทรทัศน์ใหญ่โตแค่ไหน  ครูได้แต่ยิ้มคะ  เพราะถ้าไปเรื่องใหญ่ที่ต้องจัดการ เพราะเด็กทุกคนไม่มีเอกสารใดใดเลย แถมด้วยพ่อแม่ก็เข้าเมืองมาแบบผิดกฎหมาย  แล้วแถมไปพบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในเรื่องการแต่งกายอีกครูได้แต่ยิ้มไม่รับปาก แต่ก็หาวิธีการพามาทัศนศึกษาเรียนรู้กันดีกว่า   ขอคิดให้รอบคอบอีกครั้งหนึ่งนะ  ครอบครัวนี้ทั้งพี่และน้องไว บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ารักในหลวงของเมืองไทย รักมากเพราะท่านช่วยเหลือประชาชนทุกคน  ครอบครัวหนูมีงานทำ มีเงินเพราะท่านให้เข้ามาได้ถึงจะโดยจับบ้างเป็นครั้งคราวเมืองไทยอย่างไรก็ยังหางานทำได้ง่ายกว่าอยู่เขมร


                   คุยกับเด็กนานาชาติแล้วรู้สึกถึงความรักที่พวกเขามีต่อพระเจ้าอยู่หัวของเรา เป็นปลื้มเราโชคดีที่เกิดเป็นคนไทย เรามีในหลวงของรักที่ดูแลประชาชน  แค่เสียงสะท้อนของเด็กน้อย แต่ละคน  ในขณะเดียวกัน เด็กบางคนก็เรียกร้องว่าของของทำเพิ่ม  ครูจิ๋วจึงมีแผนสองมา เพื่อให้ครูได้เบรกไปกินข้าว และหยุดความรู้สึก น้ำตาจะไหลอีกแล้ว  จึงมอบเวทีให้น้องรักษ์ยิ้มกับน้องเต้ย  สอนทำสร้อยข้อมือเพราะมีลูกปัดสีดำเหลืออยู่  ของไปเบรกอารมณ์สักครู่

                   ขณะที่ครูเย็บมุกติดโบว์ติดเข็มกลัด  พี่สองสองคนเจ้างา กับเจ้ายง ก็มาให้ครูทำและสนเข็มให้ครู  เด็กสองคนนี้ อยู่กับศูนย์เด็กก่อสร้างมาสาม-สี่ ปี แล้ว เป็นตัวหลักในการฝึกอ่าน เขียน พูด ฟัง ให้กับเพื่อนคนอื่นๆด้วย  ซึ่งตอนหลังก็เริ่มที่จะติดเกมในมือถือ  เป็นอีกปัญหาหนึ่ง ในแหล่งก่อสร้าง  จึงมีโอกาสได้คุยกันถึงครอบครัว ว่าทั้งบ้านอยากได้โบว์  เมื่อวานนี้พ่อก็ไปตลาดสำโรง เห็นบอกว่ามีแจกพอไปถึงจริง จริง ไม่ให้  เขาแจกอยู่ที่หน้าห้างอิมพิเรียลสำโรง  เขาบอกว่าให้เฉพาะคนไทย  ซึ่งคนต่างด้าวก็เยอะ เขาอยากติดโบว์กันทั้งนั้น  มีบางครอบครัวไปซื้ออันละสิบถึงยี่สิบบาท  บ้านผมก็เลยยังไม่มี  ครูมาสอนดีจังเลยได้ใช้เลยวันนี้  ผมของเพิ่มห้าอันได้ไหม  ครูให้ได้สามอัน  อาทิตย์หน้าครูไปซื้ออุปกรณ์เพิ่มแล้วจะมาทำให้ใหม่นะ   แล้วพวกเธอรู้จักในหลวงด้วยหรือ ครูครับ พวกผมรู้จักจากโทรทัศน์เขาพูดทุกวัน  แม่ยังบอกว่าในหลวงเมืองไทยท่านเก่งและใจดีกับประชาชน ห่วงใยประชาชนของท่าน ท่านทำงานหนักเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีด้วย  มีปัญหาอะไรในหลวงก็ช่วยเพื่อให้ประชาชนลุกขึ้นมาช่วยตนเอง ไม่ใช่รอความช่วยเหลืออย่างเดียว พร้อมทั้งแนะนำมาทำให้ดูเป็นตัวอย่าง  ว่าทุกปัญหามีทางออกแค่อดทน อดกลั่น ขยันหมั่นเพียร อย่าท้อแท้  ครอบครัวของเรามีอยู่มีกินได้เรียนเพราะมาอยู่เมืองไทย เพราะเมืองมีความอุดมสมบูรณ์ปลูกอะไรก็ขึ้น งานก็มีให้ทำ อย่าขี้เกียจอย่างเดียวไม่อดตายเมื่ออยู่ในเมืองไทย และคนไทยใจดีด้วยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีใจเมตตา ผมทั้งครอบครัวพึ่งบารมีในหลวงของประเทศไทย  ผมรักในหลวงครับ เสียงน้องงาตอบอย่างชัดเจน


  

                   น้องจันทร์ดี  เป็นเด็กชาวกัมพูชาที่โชคดีที่สุดในศูนย์เด็กก่อสร้างเพราะเป็นคนเดียวที่ได้กลับไปเรียนหนังสือที่ประเทศกัมพูชา แต่เวลาปิดเทอมก็จะกลับมาเยี่ยมพี่ พี่ ที่มาทำงานในเมืองไทย  น้องจันทร์ดี ครั้งแรกยังทำไม่ได้เพราะขาดสมาธิ แต่เมื่อให้พี่สอนก็ทำได้ ได้มีโอกาสคุยกัน เพราะอยู่กับศูนย์เด็กมาสามปีเต็ม เป็นเด็กที่โชคดี เพราะเป็นน้องคนเล็ก  พี่จึงยอมส่งให้เรียนเวลากลับก็จะขออุปกรณ์การเรียนกลับไปใช้พร้อมกระเป๋าใส่หนังสือ  จันทร์ดีบอกว่าอุปกรณ์เหล่านี้ที่กัมพูชาแพงมาก เด็กเองก็ไม่มีหรอก ยิ่งที่โรงเรียนไม่มีแม้ดินสอ  หนูมีหนูก็แบ่งให้เพื่อนเพราะหนูจะกลับมาเมืองไทยทุกสามเดือน  เมืองไทยเป็นบ้านหลังที่สองของหนู  หนูอยู่เมืองไทยมากกว่าประเทศต้นทางเสียอีกคะ   การทำโบว์วันนี้หนูอยากได้เป็นสิบอันเลย พ่อแม่พี่ๆก็อยากได้  แต่ขอทำให้เป็นก่อน  แล้วรอครูนะ   หนูรักในหลวงของเมืองไทยคะ  แม่บอกว่าในหลวงของประเทศไทยเป็นเป็นคนที่มีเมตตามาก เพราะแม่เคยเป็นคนที่เคยอพยพมาพึ่งสมัยกัมพูชาแตก แม่ยังมีอายุน้อยอยู่เลย  พ่อพามาอยู่ที่ศูนย์อพยพเขาอีด่าง  ตอนนั้นแม่บอกว่าทั้งครอบครัวจะเอาไม่รอดอยู่แล้วเพราะเดินไกลมาก เดินผ่านป่าและต้องคอยหลบทหารที่จับคนอพยพ  พวกเรากลัวสุด ไม่เคยกลัวอะไรมากมายขนาดนั้น  จนพากันเดินทางมาถึงศูนย์อพยพ  พระเจ้าอยู่หัวให้แผ่นดินสร้างศูนย์  พวกเราอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพกว่า 5 ปี เมื่อกัมพูชาสงบจึงกลับประเทศ ไปจับจองที่ดินทำนา  แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด ต้องอพยพพาลูกหลานมาอยู่เมืองไทยกว่าสิบห้าปีแล้ว  ทุกวันนี้มีบ้านมีงานทำเพราะในหลวงของประเทศไทย  ลูกทั้งเจ็ดคน หกคนมีลูกมีหลานก็อยู่เมืองไทย  ครอบครัวฉันเพิ่งจะทำเอกสารการเข้าเมืองถูกต้องตามกฎหมายไทยได้สามปีเอง เพราะเพิ่งจะเก็บเงิน  แต่ก่อนก็หลบหนีเข้าเมืองเหมือนกัน  ฉันรักในหลวงมาก ฉันอยากไปสนามหลวงแต่ไปไม่ถูก  ไม่รู้ว่าเขาให้พวกฉันเข้าได้ไหม   ครูได้แต่ยิ้มคะ  รอเวลาก่อนนะครูตอบ 


                   อีกสองคนพี่น้องเป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งอยู่ในสภาพที่พี่ชายชอบถอดเสื้อ น้องเล็กตัวเล็กมากเห็นได้ชัดว่าขาดสารอาหาร เมื่อตนกินข้าวครูสังเกตเห็นจะกินอาหารเก่งมาก เติมข้าวผัดสามครั้ง  ส่วนพี่ชายเองก็เติมสามครั้งเหมือนกัน  แต่ครูพูดว่ากินให้กิน กินช้านะ ดูน้องด้วยอย่าให้น้องกินข้าวหก เป็นการปรามเพราะเขากินข้าวเร็วมาก เหมือนรีบยัด ยัด เข้าไปในปาก แบบไม่ต้องเคี้ยวเลยรีบกลืน  ครูกลัวติดคอ ทำอะไรก็เร็วจนเพื่อน เพื่อน ตามไม่ทัน  เหมือนการเอาตัวให้รอดทุกสถานการณ์  จนครูต้องบอกว่าให้ใจเย็น ห้ามรีบร้อนจนคนอื่นตามไม่ทัน  คนพี่ชื่อ น้องเซีย  น้องชายเยียซึ่งตัวผอม เล็กอายุประมาณสักสองขวบแต่เล็ก และน้ำหนักน่าจะน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน หรือที่กำหนด  น้องเซียเป็นเด็กผู้ชายที่ทำริบบิ้นติดหน้าอกได้สวยและทำได้เร็ว  ทำทีเดียวสี่อันเลย  ครูเลยได้แต่ยิ้ม เขามากระซิบกับครูว่าผมของทั้งหมดเลยนะ ให้พ่อแม่ด้วย ครอบครัวเธอมาอยู่เมืองไทยอีกปีแล้วเพราะครูไม่เคยเจอครอบครัวเธอเลย ผมเพิ่งมาได้ปีเดียว แต่ก่อนอยู่ที่บางแค พึ่งจะย้ายมาที่นี้ได้แค่สามเดือน  ห้องผมไม่มีทีวีดูหรอก แต่รู้ว่าทุกคนรักในหลวง ผมก็รักในหลวงเหมือนกัน เหมือนทุกคนที่มาอยู่ในเมืองไทย ทั้งพ่อและแม่ของผมจะพูดภาษาไทยไม่ค่อยได้ และไม่ค่อยได้คุยกันเรื่องนี้ แต่รู้ว่าเวลาได้ยินเสียงเพลง แม่กับพ่อจะยืนตรงทุกครั้ง

                   ผู้คนเหล่านี้ถึงแม้จะเป็นเด็กต่างด้าว เด็กนานาชาติ ทุกคนที่ครูได้สัมผัส ได้มาสอนการทำโบว์ติดหน้าอกบนเสื้อ ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่า ผมรักในหลวง หนูรักในหลวงของเมืองไทย