ต่อยอด..ขยายงานรถเคลื่อนที่สัญจรในแหล่งก่อสร้าง
ทองพูล บัวศรี
ที่ปรึกษา โครงการศูนย์เด็กก่อสร้าง
ด้วยโครงการศูนย์เด็กเล็กเคลื่อนที่ เป็นงานส่วนหนึ่งของมูลนิธิเด็ก แต่เมื่อทางครูหยุย(นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์) เป็นผู้ประสานงานโครงการศูนย์เด็กก่อสร้างแล้วนำโครงการนี้ มาตั้งเป็นมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก เริ่มตั้งแต่ ปี พ.ศ.2531 จนถึง ปี พ.ศ. 2540 เป็นช่วงที่งานโครงการศูนย์เด็กก่อสร้างได้ทำงานขยายงาน คือ
1.ทางโครงการศูนย์เด็กก่อสร้างได้ขยายงานกับบริษัทก่อสร้างจำนวนกว่า 25 บริษัท กว่า 37 แหล่งก่อสร้าง โดยทางบริษัทก่อสร้างเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ได้ดูแลเด็กกว่า 1,700 คนที่ได้มีโอกาสเข้าเรียน ฝึกทักษะ การเสริมงานอาชีพ ตลอดจนทางโครงการได้เปิดศูนย์การเรียนนอกระบบสำหรับกลุ่มเด็กด้อยโอกาส เด็กจบการศึกษานอกระบบในระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา กว่า 280 คน การทำงานกับชุมชนที่เป็นพ่อแม่ของเด็ก ผู้รับเหมาก่อสร้าง บริษัทรับเหมาก่อสร้าง เจ้าของโครงการก่อสร้างโดยตรง จนถึงปี 2540 ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ศูนย์เด็กก่อสร้างต้องหยุดงานชั่วคราวลง แต่ก็ยังเสริมด้วยงานโครงการครูสัญจร เดินไปตามชุมชนเถื่อนแถวรังสิต เน้นส่งเด็กเข้าเรียนหนังสือ ทำกว่าสามปี เด็กได้เข้าโรงเรียน และได้ทำเอกสารให้เด็กริมครองรังสิต ปัจจุบันคนบริเวณแถวนั้นย้ายไปคลอง 2 คลอง 15 เด็กหลายคนที่ออกจากโรงเรียนกลางคั่น เป็นแรงงานช่วยพ่อแม่เป็นที่เรียบร้อย
2. ขยายงานไปยังศูนย์เด็กด้อยโอกาส ของสำนักงานพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร โดยเน้นการทำงานไปที่การเปิดศูนย์เด็กในแหล่งก่อสร้าง เพียงแต่ครูไม่ได้นอนในศูนย์ เปิดจนถึง ปี พ.ศ.2539 แล้วก็ปิด ด้วยหลายสาเหตุ ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ บุคคลากรที่เป็นครูไปสอบบรรจุเป็นข้าราชการ รวมถึงการเปลี่ยนนโยบายของผู้บริหารของกรุงเทพมหานคร จนถึงบัดนี้ไม่มีศูนย์เด็กก่อสร้างที่เปิดโดยกรุงเทพมหานคร
3. การเปิดศูนย์เด็กก่อสร้างอีกครั้งของมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ตั้งแต่เปิด พ.ศ2550 จนถึงปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องกลุ่มเป้าหมาย เดิมเป็นเด็กไทย ในปัจุบันนี้กลายเป็นเด็กนานาชาติ ซึ่งมีปัญหามากมาย ตั้งแต่การปรับตัวของเด็ก เด็กบางคนพูดภาษาไทยไม่ได้ก็จะหมกตัวอยู่แต่ในห้อง พ่อแม่ไปทำงานก็จะเก็บตัว บางคนไม่อาหารกินตอนกลางวันเลย ความปลอดภัยในบ้านพักของกรรมกรก่อสร้างก็เป็นอันตราย การไม่มีโอกาสได้ไปไหนเลยก็เป็นปัญหา แต่สำหรับการเปิดศูนย์เด็กก่อสร้างอย่างเต็มรูปแบบจะมีปัญหาทั้งงบประมาณและบุคลากรที่จะดำเนินการเรียนการสอนเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด
ในขณะนี้มีหลายบริษัทที่อยากทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยให้ทางโครงการศูนย์เด็กก่อสร้างไปเปิดศูนย์เด็กอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจำกัดด้วยข้อจำกัดหลายประการ จึงมีรถเคลื่อนที่สัญจร ไปตามแหล่งก่อสร้างต่างๆอีกจำนวน 10 แหล่งก่อสร้างด้วยกัน โดยเน้นงานทำงานตามแหล่งก่อสร้างขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเด็กแต่ละบ้านพักกรรมก่อสร้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ในขณะนี้ทางรถเคลื่อนที่สัญจร ได้ดำเนินการไปแล้ว หนึ่งแห่ง มีเด็กกว่า 40 คน อยู่ที่ซอยบางซื่อ 52/1 (ซอยสามมัคคี)
โดยรถเคลื่อนที่จะเน้นการทำงานเชิงรุก เน้นไปที่ : ให้เด็กลูกกรรมกรก่อสร้างเข้าถึงสทธิ สิทธิพื้นฐานที่เด็กลูกกรรมกรก่อสร้างควรจะได้รับ
(1) เรื่องการศึกษา(ทั้งในระบบโรงเรียนที่เด็กสามารถเข้าเรียนได้ การเรียนนอกระบบ หรือการพัฒนาทักษะชีวิตอย่างเช่น ศูนย์เด็กเล็กก่อสร้าง หรือรถเคลื่อนที่)
(2) การรักษาพยาบาลเพราะเด็กเหล่านี้มีสองกลุ่ม เด็กกลุ่มที่หนึ่งพ่อแม่ขึ้นทะเบียนแรงงานเด็กจึงมีการซื้อหลักประกันด้วย ราคา 365 บาท ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 7 ปี กลุ่มที่เกิด 7 ปีขึ้นไปต้องซื้อหลักประกันเท่ากับผู้ใหญ่คือ 1,665 บาท ซึ่งพ่อแม่จะไม่ยอมซื้อให้ลูกก็จะผิดกฎหมายหรือเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมาก็จะไม่ยอมไปรักษาโดยเด็ดขาดกลัวความผิด สำหรับอีกกลุ่มหนึ่งชุดที่ลักลอบเข้าเมือง ลักลอบการทำงาน เด็กกลุ่มนี้จะไม่มีเรื่องการรักษาพยาบาล ตลอดจนการจะถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทำให้เด็กกลุ่มนี้มีการเคลื่อนย้ายหนีกันตลอด พ่อแม่ถูกโกงค่าแรง เด็กไม่ได้ความปลอดภัยในการอยู่อาศัย
(3) สิทธิการอยู่อาศัยอย่างปลอดภัยและมั่นคง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้รับเหมาเป็นส่วนใหญ่ สภาพบ้านพักของกรรมกรก่อสร้าง เป็นบ้านพักที่ใช้สังกะสีเป็นทั้งหลังคา และฝาผนัง ปูพื้นด้วยไม้อัด สภาพห้องน้ำไม่เพียงพอ เหมือนกับห้องส้วมของกรรมกรก่อสร้างเองก็ไม่เพียง
(4) สำหรับกลุ่มที่ลูกเกิดในประเทศไทยโดยเฉพาะ-กลุ่มแม่และเด็กอ่อน เด็กที่เกิดในประเทศไทยต้องได้รับสูจิบัตร ได้รับการรักษาพยาบาลตามบัตรสุขภาพที่ซื้อตามพ่อแม่ ครูก็จะเริ่มถามว่าว่าเกิดที่โรงพยาบาลไหน ได้ใบเกิดแล้วหรือยัง ได้สมุดสีชมภูไหม ไปฉีดวัคซีนที่ไหน ครูก็จะคอยไปพร้อมกับสอนเด็กไป เพื่อสร้างความไว้วางใจ และสอบถามการเข้าถึงสิทธิต่างๆไหม กลุ่มแม่เด็กอ่อนจะเข้ามาหากลุ่มครูด้วยความอ่อนโยนมีปัญหาของลูกก็จะเริ่มเล่าให้ฟัง
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของเด็ก มีเด็กที่อยู่ในบ้านพักอายุ 0-13 ปี กว่า 40 คน ส่วนมากเป็นเด็กนานาชาติ (ชาวกัมพูชาจำนวนกว่า ร้อยละ 90 ) เด็กส่วนใหญ่ไม่เคยเรียนหนังสือทั้งกัมพูชา และไทยมาเลย เด็กมีความตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก รถเคลื่อนที่จะเข้าไปพบเด็กๆอาทิตย์ละ หนึ่งถึงสองครั้ง แต่ทางรถเคลื่อนที่ปรับรูปแบบการให้กระเป๋าใส่การบ้าน ช่วงที่รถเคลื่อนที่ไม่ได้ไป เมื่อครูเข้ามาเด็กจะเอาการบ้านเก่ามาส่ง แล้วรับการบ้านใหม่ไปต่อ สลับกันอย่างนี้
เด็กนานาชาติทุกคนจะรอคอยรถเคลื่อนที่คันนี้เป็นอย่างมาก เพราะเด็กทุกคนจะได้ทำกิจกรรมเกมส์ เพลง มาร้องเล่นกันก่อนทำกิจกรรมอื่น กลุ่มแม่และเด็กอ่อนก็จะนำลูกของตัวเองมาล้อมวงกับกลุ่มเด็กด้วย ได้ฝึกลูกของตัวเอง เริ่มตั้งการเข้าฝึกเข้าแถว แถวตรง ซ้ายหัน ขวาหัน การสอนเด็กให้เด็กสมาธิในมุมต่างๆที่มีที่กว้างพอให้เด็กนั้งได้ โดยครูจะปูแผ่นพลาสติคปูนั่ง เป็นทั้งที่นั่งที่เรียนของเด็กไปพร้อมกัน
กลุ่ม เด็ก สำหรับเด็กไทยได้เรียนหนังสือตามกฎหมายของประเทศไทย สำหรับเด็กต่างด้าว(นานาชาติ) เด็กคนไหนพร้อมถึงได้เข้าเรียนในระบบโรงเรียน เด็กที่มีการเคลื่อนย้ายสูง เน้นการสอนภาษาไทย อ่าน ออก ฟัง เขียนได้ เน้นการเขียนชื่อตนเองเป็น ครูมีความเชื่อในการเขียนชื่อเด็กเองได้เวลาจะรับเงิน การเซ็นต์ชื่อ เด็กจะได้ไม่ต้องแป๊ะโป๊ (การใช้นิ้วหัวแม่มือกดไปที่แท่นหมึกสีดำ หรือสีน้ำเงิน แล้วกดต้องช่องลงลายชื่อด้วยลายหมึก) ซึ่งคนทุกคนอย่างน้อยควรที่จะต้องเขียนชื่อตัวเองได้ เวลาที่ไปโรงพยาบาลกับคนก่อสร้างต่างด้าวสิ่งเจ็บป่วยเวลาคุณหมอหรือนางพยาบาลให้เซ็นต์รับทราบ ทุกคนจะบอกว่าเขียนทั้งภาษากัมพูชา และภาษาไทย เขียนไม่ได้ มันโคตรเจ็บปวดสำหรับคนเป็นครูอย่างไร บนประเทศไทยยังมีคนเขียนชื่อตัวเองอีก..... เสริมทักษะชีวิตการอยู่กับสังคมไทย เน้นการรู้จักประเพณี ขนมธรรมเนียม วิถีการปฏิบัติตน การอยู่แบบสังคมเดียวกันในอาเซียน
สำหรับกลุ่มเยาวชน มีการจัดนิทรศการเรื่องยาเสพติด การวางแผนครอบครัว สอนหนังสือภาษาไทยในช่วงกลางคืน การสอนโรคเอดส์ การใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังในประเทศไทย ซึ่งกำลังประสานงานกับองค์เฟรนด์ ประเทศไทยที่จัดอาสาสมัครชาวกัมพูชามาจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
งานรถเคลื่อนที่สัญจรได้เริ่มทดลองการปฏิบัติงานมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 เป็นต้น จะจะเริ่มใช้รถวิ่งตระล่อนไปยังแหล่งก่อสร้างต่างต่างอีก 10 แห่งแน่นอนในปีหน้า....เป็นอีกงานที่ขยายลงไปในพื้นที่แหล่งก่อสร้าง...