banner
จันทร์ ที่ 28 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2559 แก้ไข admin

หมาจรจัด...กับเด็กเร่ร่อน




 
นางสาวทองพูล  บัวศรี

ผู้จัดการโครงการครูข้างถนน  มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก

 

                   ด้วยสถานการณ์ของเด็กเร่ร่อนวัยรุ่น ในช่วงอายุ 9-14 ปี เป็นกลุ่มเด็กที่เป็นลูกผีลูกคน เพราะเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ เป็นวัยของการเติบโตเป็นวัยรุ่น  เป็นวัยแห่งการผลัดใบจากเด็กเข้าสู่วัยรุ่น พลังก็มาก อยากรู้อยากเห็น คิดว่าตัวเองแน่ ทำอะไรก็ได้ แรงขับก็มาก  ไม่อยากอยู่ในกฎเกณฑ์ อยากทดลอง อยากใช้ชีวิตเอง อยากมาใช้ชีวิตข้างนอกโดยที่ไม่มีพ่อแม่จู้จี้ขี้บ่น ไม่ต้องมีใครมาติดตาม หรือตามให้กลับเข้าไปนอนที่บ้าน มีเหตุผลที่เข้าข้างตนเองมากมายหลายประการด้วย  ทั้งหมดคือเหตุผลของตัวเด็กเป็นใหญ่   ถ้าพ่อแม่พี่น้องไม่เข้าใจ หรือช่วยกันดึงไม่อยู่ ก็เป็นการผลักเขาให้เร็วขึ้นในการออกไปจากบ้าน

                   กลุ่มเพื่อนมีความสำคัญมาก รักเพื่อนสุดชีวิต  ทำทุกอย่างเพื่อเพื่อน อะไรที่ได้คุยกันไว้ตกลงกันไว้ แม้จะเสียเปรียบก็ยอม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มให้ได้   แม้ตัวเองก็ป่วย จะเจ็บอย่างไร เมื่อเพื่อนบอกว่า จะไปเที่ยว หรือไปส่งยาเสพติด ก็ยอม แม้บาดแผลที่ตนเองก็จะแย่อยู่แล้ว ตามใจเพื่อนทุกอย่าง โดยไม่สนใจตัวเองเลย

                   ด้วยในกลุ่มเพื่อนสามคนในแก๊งค์เดียวกัน มีเพื่อนรัก เจ้าแบงค์ เจ้าหนึ่ง เจ้าเล็ก  ซึ่งก็เป็นเด็กที่อยู่ในชุมชนกีบหมู  วิถีชีวิตกลางวันอยู่ในร้านเกม  กลางคืนประมาณสักสองทุ่มจะเดินจากร้านเกมมายังปากซอยปัญญา-อินทรา  สถานที่สิงสถิติของเจ้าสามหนุ่มสามมุมคือ หน้าร้านสะดวกซื้อ  แต่ทุกคืนก่อนจะนอนจะต้องเดินขอเงิน ขอเหล้า คนที่มาใช้บริการที่ผับ  บางครั้งก็กินเหล้า แต่เรื่องบุหรี่สูบกันอยู่แล้ว

                   กว่าจะเข้านอนได้ก็ประมาณตีสองของทุกคืน จะนอนที่หน้าร้านสะดวกซื้อพร้อมกับหมาจรจัด ประมาณ 6-8 ตัว  โดยบางครั้งทั้งเด็กทั้งหมาก็นอนอยู่ด้วยกัน รักกันมากด้วย  เป็นเรื่องปกติของเด็กเร่ร่อน กับสัตว์เลี้ยง  บางครั้งครูจะบ่นว่าแค่ตัวเองจะเลี้ยงไม่รอด ดันอยากจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยง  เด็กเหล่านี้จะย้อนครูทันที่ว่า  สัตว์เลี้ยงเหล่านี้มันก็เหมือนผม  ไม่อยากอยู่บ้าน  บ้านมันเล็กนอนไม่พอ  จริงแล้วผมเสียสละนะ

                   เจ้าเล็ก เป็นสมาชิกของแก๊งค์  สามหนุ่มสามมุม  เล็กอุ 14 ปี เรียนจบชั้นประถมศึกษา ปีที่ หก แต่ที่สำคัญ คือแค่เขียนชื่อตัวเองได้ แต่อ่านไม่ค่อยออก  เป็นเด็กตัวโตมาก ผมยาว ตาคม ขนตายาวมาก มองนัยน์ตาสายตาจะเศร้ามาก  เป็นลูกคนเล็กของครอบครัว


                   ไม่ชอบอยู่บ้าน บอกว่าที่พักเช่ามันเล็ก อยู่ด้วยกัน ทั้งหมด หกคน ด้วยกัน เวลาเข้าบ้านที่ไร แม่ก็จะบ่นมาก ผมเลยเบื่อ  ก็ไปเล่นเกม เล่นไปเล่นมา เลยไม่กลับเข้าบ้านเลย  ตอนแรกพี่ชายกับแม่ก็จะตาม ผมก็จะหนี  เพราะอยู่ข้างนอกสนุกมาก

                   ผมเองก็เริ่มนิสัยไม่ดีไปยืมเงินเพื่อนบ้าน หรือบางครั้งก็เอาของไปขาย  ทางบ้านผมก็เบื่อระอาผมเหมือนกัน

                   แต่เมื่อก็จามให้เขาไปนอน  เอาเงินให้เล่นเกม ซื้ออาหารกินบ้าง

                   ผมเคยถูกจับ ไปอยู่ที่สถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด แต่อยู่ได้ประมาณ 22 วัน  แม่สงสารจึงไปรับกลับมา ช่วงปลายปี 2558

                   ผมก็เข้าบ้านบ้าง-อออกบ้านบ้างเป็นครั้งคราว  ก็ยังติดเพื่อน ผมรักมันมากนะ  มันคือเพื่อนผม  แต่ผมจะเป็นที่ช้ากินเยอะ  เวลากินอะไรผมมักจะกินไม่อิ่ม  เพื่อนจะบ่นเรื่องการกินเป็นประจำกับผม

                   มีวันหนึ่ง ผมกับเพื่อนนอนกันที่ร้านสะดวกซื้อ ที่ประจำ  วันนั้นเป็นวันที่มีหมาจำนวนมากมันด้วย  หมาเหล่านี้มันคุ้นเคยกับพวกผมเป็นอย่างดี

                   วันไหนมีคนซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้ง ไว้ให้พวกผมกิน ถ้าพวกผมยังไปตื่นก็เป็นอาหารของหมาไป

                   วันที่เกิดเหตุการณ์ ผมตื่นขึ้นมาก็ ก็ลุกไปปลุกเพื่อน ทั้งสองคน

                   เมื่อปลุกเสร็จผมก็เดินไปหาหมาตัวหนึ่งปกติผมเรียกมันว่าปิงปอง

                   จึงเอาเท้าไปเตะมันที่ลำตัว  เอามือไปกดที่ปากกับหัวของมัน   เจ้าปิงปองมันคงรำคาญ มันเดินหนีผม  ผมก็เดินตามไปอีก




                   ครั้งนี้ผม เอามือไปตีที่หัว  เจ้าปิงปองมันกระโดดงับเข้าที่มือผมทันที

                   ผมร้องอย่างเจ็บปวดมาก

                   เพื่อนสองคนผมเห็นก็รีบวิ่งมาก  บอกว่าไปหาหมอ

                   พวกผมก็ถีบจักรยานกันไปที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง

                   เขาถามผมว่ามีบัตรประชาชนไหม มีสำเนาทะเบียน ผมรำคาญมากแต่ก็เลือดไหลมาก ปวดด้วย แล้วทำไมยังต้องมาถามอีก

                   พยาบาลเขาเรียกผมเข้าไปทำแผล เอาน้ำเกลือล้างแผลผม  แล้วเอายามาทาให้ ใช้ผ้าก๊อตพันมือผม  แล้วบอกว่ากลับบ้านได้

                   ผมก็ขี่จักรยานกลับมานอนที่หน้าร้านสะดวกซื้อ  ช่วงไหนผมนอนอย่างเดียวเลย  มันปวดมาก  ดีที่พี่ร้านเกมให้ยาแก้ปวดผม ผมหลับตื่นขึ้นมากก็ไปนอนต่อที่ร้านเกม

                   ผมอยากกลับบ้านไปที่นอนที่บ้าน แต่ผมไม่กล้าครับ  เพราะผมไปเอาเงินพี่อีกคนหนึ่งมาเจ็ดร้อยบาท  พี่เขาไปเอากับแม่ผมที่บ้านเช่า

                   ผมกลัวแม่ตี  การป่วยครั้งนี้ผมไม่มีทางไป  สู้ไปนอนที่ร้านสะดวกซื้อ  อย่างน้อยสุดผมก็ได้มีคนในหมูปิ้งผมกิน

                   ผมกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อ หมาที่กัดผม มันถูกตีตายแล้ว  คนในบริเวณแถวนั้น โดยให้เหตุผลว่า หลังจากที่กัดผมแล้ว มันไปกัดคนอื่นที่มาซื้อของอีกสองคน  แต่ไม่เข้าเหมือนผม

                   แผลผมยาวมมากจากนิ้วชี้จนถึงอุ้มมือ แล้วเขี้ยวกัดทุละที่ปลายอุ้มมือติดกับนิ้วก้อย  มันปวดมาก เจ็บมาก

                   แต่ผมก็ยังนอนกลิ้งนอนเกือก อยู่ที่หน้าสะดวกซื้ออีกสามวัน 

                   มือผมเริ่มมีอาการบวม เหมือนมีหนอง แต่เพื่อนสองคนผมเขาไม่สนใจผมเลย  ผมก็จะพยายามเรียกร้องความสนใจ  แต่ด้วยความเป็นอิสระของกันและกัน

                   ในช่วงเช้ามืดของวันเสาร์ครูลงไปพบ พร้อมน้องนักข่าวที่อยากได้รูปเด็กเร่ร่อนนอน  ซึ่งได้เห็นการนอนของเด็กเหล่านั้น กว่าครูจะเดินทางถึงเหลือเจ้าเล็กคนเดียว

                   ครูถามเรื่องแผลหมากัด เพราะแมลงวันตอมแผล

                   แผลที่มือต้องบอกว่ามีทั้งหนอง น้ำเลือดนำหนองเต็มฝามือและบวมมาก แค่มองเผิน เผิน ต้องบอกว่าเจ้าเล็กกำลังติดเชื้อ


                   จึงชวนเจ้าเล็กไปหาหมอ

                   เจ้าเล็กก็กระบิดกระบวน อิดอ๊อด ไม่อยากไป

                    สุดท้าย คำด่าของครูก็เริ่ม ท่ามากเกินไป  ไหนละเพื่อนเอ็ง ที่รักกันหนักกันหนา เอ็งป่วยขนาดนี้ครูไม่เห็นใครสักคนที่หาข้าว หาอาหาร หรือพาเอ็งไปหาหมอ

                   เอ็งรู้ไหมว่า นี้มันติดเชื้อแล้ว หาเข้ากระแสเลือด มีหวังตัดมืออย่างเดียว

                   ยาก็ไม่ได้ฉีด  หมาตัวไหนเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือเปล่า  เจ้าเล็กหันมาบอกว่ามันตายแล้ว มีคนฆ่ามัน เพราะมันไปไล่กัดเขา

                   ซวยแล้วไหม เจ้าเล็ก

                   จะไป หรือไม่ไป ครูรำคาญเรื่องมาก เอ็งไม่รักชีวิตเอ็งใครเขาจะรัก 

                   ลูกครูก็ไม่ใช่ หลานก็ไม่ใช่  เอ็งอย่าเรื่องมาก  เงินครูก็เสียเอ็ง

                   จะไปก็ลุก  อย่าชักช้า เพราะมีงานอื่นที่ต้องจัดการอีกหลายเรื่อง

                   ครูจึงพาไปโรงพยาบาลเอกชน  ฝ่ายคัดกรองเห็นก็บอกว่าติดเชื้อแน่นอน  โดนบ่นบอกว่าทำไมแม่ดูแลลูกไม่ดี

                   เมื่อไรพาเด็กเร่ร่อนไปโรงพยาบาล จะถูกเหมาว่าเป็นลูกของครูเสมอ แล้วก็จะโดนบ่นทุกครั้งว่าปล่อยปะละเลยเจ้าเด็กกลุ่มนี้เสมอ

                   ส่งตัวไปหาหมอ คุณหมออายุ 80 กว่า พอเห็นหน้าเด็ก  คุณหมอบอกว่าเก่งหนักใช่ไหม ห้ามร้องเด็กขาด

                   คุณหมอบอกว่าต้องล้างแผล เอาน้ำราดที่แผลทันที่ ตามด้วยแอกฮอล์  แล้วตามด้วยปลายมีดที่คมกริบ กรีดลงที่แผล

                   คุณหมอใส่ถุง ใช้มือรีดลงที่ฝามือของเจ้าเล็ก นั่งบิดเพราะตั้งปวดและเจ็บ  คุณหมอก็บ่นไปว่ารู้ไหม มีโอกาสตัดมือถ้ายังปล่อยไว้ ห้ามร้องให้หมอได้ยิน กัดผ้าไว้

                   คุณหมอรีดไปเรื่อย เรื่อย สักพัก ทั้งเลือดทั้งหนองออกมาปนกันอยู่ในถ้วย แล้วยกมาให้เจ้าเล็ก  บอกว่านี้คือเชื้อโรคทั้งนั้นเห็นไหม

                   เธอเก่งเกินไปที่ปล่อยไว้อย่างนี้  ตัวเหม็นมากกลับไปอาบน้ำ แล้วอย่าออกมาใช้ชีวิตบนถนน อีก จนกว่าจะกินยา หาหมอให้ครบตามจำนวน อีกประมาณ สามเดือน


                   ต้องไปหาหมอทำแผลทุกวัน พร้อมทั้งฉีดยา ให้ครบด้วย ทั้งยาบาดทะยัก ยาแก้อักเสบขั้นรุนแรง ยาฆ่าเชื้อ ยากันพิษสุนัขบ้า  ตามจำนวน  อย่างเก่งกับเชื้อโรค

                   คุณหมอพูดเอาเจ้าเล็กซึมไปเลย

                   ครูก็เลยตัดสินใจโทรหาแม่เล็กว่าตอนนี้ เจ้าเล็กป่วยต้องดูแลใกล้ชิด

                   จะเอาอย่างไร ให้ส่งไปบ้านไหม

                   เจ้าเล็กหันมาบอกว่า ไม่เข้าบ้าน  ขอไปอยู่ที่บ้านครูก่อน  แต่ก่อนไป ขอไปที่ร้านเกมก่อน  ให้เพื่อนเอาจักรยานมาคืนเข้าก่อน  ยังรักเพื่อนห่วงเพื่อนเหลือเกิน

                   สุดท้ายค่ารักษาพยาบาล จำนวน เจ็ดพันกว่าบาท  คุณหมอลดให้เหลือ สามพันเจ็ดร้อยบาท  ถือว่าใช้คนเดียวคุ้มเลย

                   ครูเลยบ่นต่อว่าค่ารักษาพยาบาลที่แพง ถ้าแลกกับชีวิตของเธอมันคุ้ม  ต่อไปรักษาตัวเองแล้วกัน ครูไม่มีเวลามานั่งคุ้มให้เธอกินยา กินข้าว ไม่ดูแลตัวเองก็ปล่อยให้ตายไป

                   ยังจะรักหมาสุดชีวิตอีกไหม

                   เจ้าเล็กหันมายิ้ม  แล้วบอกว่าขอบคุณมากครับครู

                   อย่างไรหมาจรจัดพวกนั้น  มันก็เหมือนผมอยู่ดี

                   ผมยังมีครอบครัว  แต่หมาเหล่านั้นมันไม่มีใคร  ผมก็ยังรักมันเหมือนเดิม  แม้มันจะทำให้ผมเจ็บ  ผมก็ยังรักมันอยู่ดี

                   หมาจรจัด กับเด็กเร่ร่อน ก็ยังเป็นสิ่งที่ของกัน ให้ห้ามอย่างไรก็คงยาก  เพราะความรักที่มีต่อกันทั้งหมาและคน