banner
จันทร์ ที่ 10 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2559 แก้ไข admin

ไปก็ไป... ครู

 
 นางสาวทองพูล  บัวศรี

ผู้จัดการโครงการครูข้างถนน มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก



          นั่งอยู่บนปรับอากาศจากปากเกร็ดมาลงอนุสาวรีย์  แน่นไปด้วยคนที่กำลังเดินทาง ทุกคนก็พยายามเดินทางเองให้ได้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องทำใจอย่างมากรถติดยาวเหยียดบนทางด่วนกว่าสองชั่วโมงแล้วยังไปขยับไปไหน เหมือนแพลอยอยู่บนถนน มองไปทางไหนก็มีแต่รถทุกยีห้อในเมืองไทย

 มีเสียงโทรศัพท์ของครู ดัง  ต่อเนื่องสองครั้งถึงได้รับสาย  ปลายสายกรอกเสียงมาว่า ...เธออยู่ไหน ฉันมีเคสเพิ่งแจ้งมาว่ามีเด็กเร่ร่อนอยู่แถวประชาอุทิศ ขอเงินอยู่ เด็กอยู่มาประมาณ 4-5 เดือนแล้ว  เป็นอาสาสมัครที่ทำงานฉันแจ้งมา  ฉันจึงโทรมาหาเธอ

          ช่วยส่งรูปมาให้ฉันหน่อย ขอเบอร์โทรศัพท์คนแจ้งด้วยอยากรู้ข้อมูลบางส่วน แต่ฉันให้เบอร์โทรศัพท์เธอไปแล้ว เดี๋ยวพี่เขาคงโทรหาเธอเองนะ เธอจะลงไปเองหรือเปล่า  ฉันจะได้บอกคนแจ้ง    เดี๋ยวฉันลงไปเองนะ  ลงวันนี้แหละ  ฉันกำลังเดินทางที่อนุสาวรีย์  นัดอาสาสมัครจะลงพื้นที่ด้วยกัน ลงวันนี้เลย

          ครูจึงโทรหาอาสาสมัคร ที่จะลงไปเรียนรู้การทำงานช่วยเหลือเด็กเร่ร่อน

          ครูอยู่ตรงไหน ครูนั่งคอย คุณใจ อยู่ที่เกาะกลางพญาไท

          ครูหนูมาถึงแล้ว  ทั้งครูและคุณใจเดินไปถามประชาสัมพันธ์รถเมล์  เจ้าหน้าที่แนะนำว่าให้ขึ้นรถปรับอากาศ สาย 140  ค่ารถคนละ 17 บาท  ลงที่ กม. 9 ครับ ต่อรถสองแถวไปประชาอุทิศ 45 ถึง 47 อยู่ระหว่างกลางซอยพอดี

          บนรถปรับอากาศก็นั่งคุยกับอาสาสมัครในการเริ่มต้นที่จะช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้  เคสนี้เป็นเคสที่ได้รับประสานงาน  จะได้เห็นกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้น

          ครูโทรหา คนแจ้ง  ครูคะ ฉันเห็นเด็กคนนี้มาหลายเดือนแล้ว เช้าขึ้นมาจะมายืนขอเงินที่หน้าตลาดอาหารตอนเช้า  เคยเตือนหลายครั้ง แต่ก็ได้แต่พยักหน้า ฉันไม่อย่าให้เด็กต้องมายืนแบบนี้ เด็กควรได้เรียนหนังสือ  วันนี้ฉันพาซื้อขนมและนมให้  เคยถามแต่เด็กไม่ตอบอะไรบอกแต่ว่ามาคอยพ่อกับพี่ชายจะมารับตอนเย็น  แต่ฉันเห็นทุกเช้าเลย  ขอบคุณมากคะแล้วจะโทรรายงานการดำเนินการให้ทราบเป็นระยะ

          คนที่แจ้งถือได้ว่าเป็นอาสาสมัคร และมีจิตใจที่อยากช่วยเหลือครูจะถือว่าเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการทำงานกับเคส

          เวลาบ่ายสองครูกับคุณใจ ได้ลงจารถสองแถว ที่เป็นเป็นที่มีที่นั่งสองแถวหันหน้าเข้าหากัน ปกติจะเห็นแต่ต่างจังหวัด แต่ชายเมืองแบบนี้ก็มียังวิ่งรับ-ส่งคนในซอย  ตลอดทางครูก็จ้องมองหน้าซอยที่ละซอย  จนมาถึงซอยประชาอุทิศ 45 พากันลงจากสองแถว  พอจ่ายสตางค์เงยหน้ามองก็เห็นเด็กกำลังยืนขอเงินอยู่พอดี  เป็นอะไรที่โชคดีมากในการทำงานลงครั้งแรกก็เจอเคสแล้ว

          หันไปเรียกคุณใจ ให้ดูว่าเด็กกำลังทำงานเชิงประจักษ์   คุณใจหันมาถามว่าครูจะทำอะไรกับเขาก่อน

          ครูเดินหน้าเลยจ๊ะ ลงไปถามก่อนเลย เด็กน้อยหันมาหาครูแบบตกใจ ครูเดินเข้าไปกอดด้านหลัง ว่ากำลังทำอะไร  เด็กบอกว่ามาคอยพ่อ ตอนเย็นก็มารับแล้ว  เด็กหันมาบอกว่าขอไปห้องน้ำก่อนนะ


          แม่ค้าทุกร้านหันมาบอกครูว่าเด็กมันหนีไปแล้ว  วิ่งหนีแน่นอน

          ครูเองก็เดินตามที่ร้านกาแฟ อยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำเสียเงิน เข้าครั้งละ 3 บาท ซึ่งตรงกับหนังสือเล่มหนึ่งที่เพิ่งอ่านมา “ไม่มีของฟรีในโลกนี้”  แค่อุจจาระ ปัสสาวะ ออกจากร่างกาย ยังต้องเสียเงินเลย

          เธอชื่ออะไร

          ผมชื่อ ชัย ครับ

          อายุเท่าไร

          ผมอายุ 11 ปี ครับ

          มาทำอะไรที่นี้

          ผมมา.....คอยพ่อ กับพี่ชาย

          ทำไมไม่เรียนหนังสือ

          แม่ผมตาย พ่อไปลาออกมา  ตั้งแต่เปิดเทอมแล้วครับ

          ไม่อยากอยู่บ้านหรือ...

          พ่อผมกับพี่ชายไปขับรถ  ผมรอกลับบ้านพร้อมกัน  พ่อมารับตอนเย็น

          ผมอยากไปแล้ว....มาถามผมอะไรมากมาย ชีวิตของผม

          สุดท้ายเด็กชายชัยวิ่งไปขอเงินคนที่ร้านก๋วยเตี๋ยว 

          ครูจึงพาคุณใจ ไปกินก๋วยเตี๋ยวกัน  เพื่อหาข้อมูลจากบุคคลที่เคยเห็นเด็ก

          ป้าคะ..เคยเห็นเด็กคนเมื่อกี้ไหม ที่วิ่งไป  โอ้ย...มันวิ่งอยู่แถวนี้มากว่า 5 เดือนแล้ว

          มัน..ขอเงินเข้าไปทั่ว..ขอครั้งสิบบาท ยี่สิบบาท  พอได้เงินมันก็หายเข้าร้านเกม  สักชั่วหนึ่ง พอเงินหมด ก็ออกมาขอกินข้าว กินก๋วยเตี๋ยว น้องนักศึกษาจะเป็นคนเลี้ยงมากกว่า   หรือบางครั้งก็เข้าไปตามร้านค้าที่นักศึกษานั่งอยู่ บอกว่าหิว  นักศึกษาก็จะสั่งข้าวมาให้กิน 

          เมื่อคืนมันนอนอยู่ข้างร้านสะดวกซื้อ  มันนอนดึกมาก เดิน-ไป เดินมา อยู่แถวนี้  เสื้อผ้าที่มันใส่

ก็หลายวันแล้ว  น่าจะยังไม่อาบน้ำเลย  พวกฉันร้านแถวนี้เป็นห่วงมัน เพราะเลยไปสองซอยมีแต่ยา  กลัวทั้งการเดินยาและ กลัวมันติดยาเสพติดด้วย  เพราะเจ้าชัยมันยังเด็กเกินไป สามารถที่พัฒนาตัวเด็กได้ สามารถเข้าเรียนได้  ไม่ต้องการให้เอาอนาคตของเจ้าชัยมาทิ้งข้างถนนแบบนี้

          ครูกับคุณใจ จึงย้อนกับไปที่ร้านขายผลไม้ ร้านขายไข่นกกระทา กล้วยทอด  ร้านขนมโตเกียว ร้านขายก๋วยเตี๋ยว ที่อยู่ตรงมุมตีนสะพานลอยอีกครั้ง  ร้านค้าทั้งหมดคือห่วงเด็กเรื่องยาเสพติดกับการเล่นเกม  เพราะเด็กจะฝังตัวอยู่ในร้านเกม

          ครั้งแรกที่พบ ทั้งครูและคุณใจกลับมาเริ่มต้นที่จะคิดเข้าหาตัวเด็ก วันเสาร์ครูได้นำภาพเด็กที่อาสาสมัครส่งมาทางไลน์ ลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัวของครู     เสียงโทรศัพท์ดังมา  เจ้าหน้าที่เรียกครูมารับบอกว่า ครูคะ ดิฉันเป็นคนดูแลร้านเกม  เด็กคนที่อยู่บนเฟซบุ๊ค  ตอนนี้อยู่ที่ร้านเกมคะ

          ครูตอบไปทันทีว่าเดี๋ยวจะลงไปหาเด็กวันนี้เลย  การทำงานกับเด็กเร่ร่อนเมื่อได้ข้อมูลและรายละเอียดต้องรีบดำเนินการทันที  ด้วยเมื่อไรล่าช้าเด็กจะไม่อยู่ที่เดิมให้ครูได้พบหน้า  และทำงานก็จะยากมากขึ้น

          เมื่อเดินทางไปถึงน้องผู้หญิงที่โทรมาบอกให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเด็กชอบไปคุยกับเจ้าของร้านขายน้ำดื่ม  เด็กชายชัยได้เข้าไปคุยเล่นพูดคุยกับลุงอยากไว้วางใจ

          ครูเองก็ได้เดินไปถ่ายรูปเด็กขณะที่เล่นเกมอยู่ เด็กส่งเสียงดังมาก มือกดเมาส์ เคลื่อนไป-เคลื่อนมาอย่างเร็วและแรงมาก พร้อมกระแทกอย่างรุนแรง ส่งเสียงดังมาก แต่คงไม่ได้ยินเพราะใส่ที่ครอบหูไว้  จึงไม่ได้ยินเสียงที่เด็กส่งเสียงออกมาว่าดังมา ครูยืนสังเกตการณ์เล่นเกมของเด็กชายชัย  เด็กจะย้ายเกมไปเรื่อย

          ครูจึงเดินไปลุงกล้วย  เป็นชายที่รูปร่างโปร่งสูง ผอม ผมยาว ท่าทางใจดี จึงเขาไปแนะนำตัวว่าครูได้รับเรื่องร้องของเด็กชายชัย ที่มาขอเงิน นำเงินไปเล่นเกม และต้องการให้เด็กได้เรียนหนังสือ  ลุงกล้วยจึงเล่าให้ฟังว่า แม่เด็กตาย อยู่กับพ่อและพี่ชาย ตั้งแต่เห็นเด็กมาอยู่ที่ประชาอุทิศไม่เคยเห็นพ่อหรือพี่ชายของเด็กเลย

          ลุงกล้วยเองก็พยายามกล่อมให้ไปเรียนหนังสือ ต้องการให้เด็กไปอยู่สถานที่ใดที่หนึ่ง จึงบอกกับลุงกล้วยว่า วันจันทร์ครูจะลงไปติดตามประวัติ ที่โรงเรียนเดิมของเด็ก  ครูฝากลุงกล้วยช่วยพูดคุยเรื่องการไปอยู่กับครูด้วย 




          เช้าวันจันทร์คุณใจกับครู ไปโรงเรียนเดิมที่เด็กเคยเรียน ประสานงานกับครูประจำชั้นเรียน ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 ครูประจำชั้นเล่าให้ฟังว่า ครอบครัวนี้มาเช่ามาอยู่ที่ชุมชนวัดครุใน  แม่เป็นชาวลาว เกิดเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ได้ประมาณสัก 2 เดือน พ่อของเด็กก็พามาลาออก แต่ทางโรงเรียนยังไม่ได้คัดชื่อเด็กออก  เพียงแต่เด็กไม่ได้มาเรียนเท่านั้น เด็กมีน้องชายกับหลานที่เรียนด้วยกัน แต่ลาออกทั้งหมด ครูประจำชั้นยังยืนยันว่าพ่อของเด็ก เป็นพ่อที่แท้จริง  แต่แม่ของเด็กไม่มีเอกสาร เด็กไม่มีเอกสารทั้งสองคน

          ครูประจำชั้นบอกว่าเคยเห็นเด็กแถว แถว ประชาอุทิศ แต่ไม่มั่นใจว่าใช่  เพราะตอนเรียนที่โรงเรียนเด็กเรียบร้อย ตั้งใจเรียนมาก  คะแนนการเรียนอยู่ในระดับดี  แต่พอแม่ตายเหมือนว่าเด็กถูกส่งให้ไปอยู่กับป้า แถวบางนา  แต่ครูเองก็ไม่มีเวลาตาม ถือว่าเป็นสิทธิของพ่อเด็กแล้ว เพิ่งรู้วันนี้ว่าเด็กใช้ชีวิตอยู่บนถนน  ช่างน่าสงสารมากนะ   อายุยังน้อยอยู่เลยทำไม่พ่อเด็กปล่อยเด็กแบบนี้  พูดยากนะเรื่องแบบนี้  ครูจะให้พวกเราช่วยอะไรบอกได้เลยนะ  ครูในโรงเรียนยินดีช่วยเพราะเด็กยังเป็นเด็กดีอยู่แค่ ระยะเวลา 5 เดือนนี้ที่เด็กไม่ได้เรียน

          เมื่อได้ข้อมูลที่โรงเรียน ครูกับคุณใจ ก็นั่งกลับมาที่ประชาอุทิศ 45 อีกครั้ง  ลงรถสองแถวเจอเด็กกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยว   ครูเดินเข้าไปหาบอกว่าอยากกินก๋วยเตี๋ยวด้วยคนนะ  เดี๋ยวครูเลี้ยงเอง กินตามสบายเลย  คนขายก๋วยเตี๋ยวให้เส้นบะหมี่จำนวนมากพร้อมเกี๊ยวน้ำกว่าหกตัว อิ่มแน่นอน  ขณะที่กินก๋วยเตี๋ยวกัน ครูกับคุณใจ ต่างก็ซักถามเรื่องการเรียนของเด็ก  ข้อมูลที่ได้มาจากโรงเรียนตรงกันบางเรื่อง  สิ่งที่ไม่ตรงกันคือเรื่องพ่อ  เด็กบอกว่าเป็นพ่อเลี้ยง  คณะครูที่โรงเรียนยืนยันว่าเป็นพ่อจริงของเด็ก  (เรื่องนี้พักไว้ก่อน) พอเด็กชายชัยกินเสร็จก็เดินออกไป

          ครูกับคุณใจก็ยังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวแบบอ้อยอิ่ง  คุยกับแม่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวไปด้วย  เพื่อหาข้อมูล  แม่ค้าบอกว่า ครู...เด็กคนนี้มันพูดเพราะ มารยาทดี จะกินอะไรก็ขอหรือบางครั้งก็ขอทำงานแลกกับก๋วยเตี๋ยวด้วย  บางครั้งก็บอกว่าผมมีแค่ยี่สิบบาทของกินได้ไหม  ฉันก็ให้นะ  ไม่พูดจาเอะอะ  มึงมาพาโวย  เด็กมีมารยาท  แต่ฉันก็ไม่อยากให้เด็กอยู่ตรงนี้  ฉันห่วงเรื่องยาเสพติด 

          เจ้าเด็กชายชัย ก็ยังเดินวนเวียนอยู่แถวนั้นพร้อมกับถุงน้ำแข็งใส่น้ำหวานสีแดงน่ากินมาก  บอกว่าลุงกล้วยให้มา   เห็นครูยังนั่งอยู่ก็วนเป็นสิบครั้ง  ความตั้งใจของครูอยากคุยกับลุงกล้วยเรื่องของเขานั้นแหละ แต่ผ่านด่านของเจ้าชัยไม่ได้  เรื่องที่จะคุยกับลุงกล้วย อยากรู้ข้อมูลว่าลุงกล้วยรู้จากปากเขาเรื่องอะไรบ้าง  การทำงานเรื่องเด็กเร่ร่อนความลับของเด็กเป็นเรื่องสำคัญ  การจะบอกเล่าเก้าสิบเรื่องของเขากับอาสาสมัครที่ช่วยครูหาข้อมูลต้องระมัดระวัง

          เมื่อคุยกับเจ้าร้านก๋วยเตี๋ยว ตั้งใจจะเดินไปหาลุงกล้วย  ผ่านไปไม่ได้สุดท้ายก็นั่งกันที่หน้าร้านสะดวกซื้อ  ตั้งแต่สิบเอ็ดโมง เริ่มด้วยครูอยากไปบ้านของชัย  พาครูไปหน่อยได้ไหม

          จะไปบ้านไหน  บ้านทั้งสองแห่ง ผมอยู่ไม่ได้ผมไม่มีบ้านจะอยู่ รอพ่อกับพี่ชายเท่านั้น

          อยากรู้ว่าบ้านสองบ้านของเรามันต่างกันอย่างไร

          บ้านที่บางนา เป็นบ้านของพี่สาวพ่อ ผมเรียกว่าป้า  ป้าให้อาศัยอยู่  น้องชายผมถูกส่งไปอยู่กับอาอีกคน ตั้งแต่แม่ตาย ไม่ได้เจอกันเลย ไม่รู้ว่าเจออะไรบ้าง  ผมอยู่กับป้า ป้าไม่สนใจผมจะกิน จะนอนอย่างไรก็ช่าง จึงไม่ได้แลแม้แต่เพียงหางตา  ผมจึงนอนรวมกันกับหลานของป้าที่ผู้หญิง  ผมติดเหามาจากพี่ผู้หญิงเต็มตัวเลย  พอพ่อมาผมจึงขอมาอยู่กับพี่ชาย

          พี่ชายผมมีอาชีพขับรถตู้  พ่อขับรถสามล้อ แต่ตอนนี้พ่อขายรถไปอยู่กับเมียใหม่แล้ว  ผมจึงอยู่กับพี่ชายสองคน อยู่ด้วยกัน ผมจะคอยพี่ชายกลับมาทุกเย็น จนวันหนึ่งพี่ชายผมก็มีผู้หญิงหิ้วกระเป๋าเข้ามาที่บ้านด้วย  ผมเคยน้องห้องเดียวกับพี่ชาย นอนบนเตียงกับพี่ เปิดหนังดูกัน เล่นกันอย่างสนุกสนาน พอผู้หญิงคนนี้เข้ามา ผมถูกไล่ให้ไปนอนที่ห้องรับแขก  ไม่มีผ้าห่ม ไม่มีที่นอน   ผู้หญิงคนนี้เขายึดเตียง ยึดห้อง ยึดที่นอนไปหมด  ผมเหมือนส่วนเกินของพี่ชายอีกคน

          ชัยบอกว่า อย่าไปพูดเลย ผมมีเรื่องกับแฟนพี่ชาย ทะเลาะกับเขาเพิ่งออกมา  ด้วยเหตุผมเล่นเกมที่คอมพิวเตอร์เปิดไฟไว้ เขาก็บอกผมว่า ผมใช้ไฟเปลื้อง  เวลาแฟนพี่ชายเปิดแอร์ทั้งวัน ทั้งคืน ไม่เปลื้องหรือ  เวลาพี่ชายผมอยู่ เขาถึงจะเรียกผมกินข้าว  ถ้าอยู่กับเขาสองคนในบ้านเช่า เขาให้ผมหากินเอง ไปเปิดตู้ดูไม่มีอะไรเลย  ผมถูกปฏิบัติแบบนี้ จะให้ผมอยู่อย่างไร ผมออกมามารอพี่ชายกับพ่อดีกว่า

          ออกมาคอยกี่เดือนแล้ว...ชัยไม่ตอบ

          ชัยอยากเรียนหนังไหม   ครูรู้ว่าชัยเรียนหนังสือดี  ครูที่โรงเรียนชมตลอดว่าเป็นเด็กดี เรียบร้อย ตั้งใจเรียน  ชอบเรียนด้วยใช่ไหม  คุณใจเป็นคนถาม   ชัยยิ้มแก้มปริ หน้าบาน   ผมชอบเรียน ผมยังอยากเรียน แต่พ่อผมไปลาออกแล้ว ผมยังเรียนได้ด้วยอีกหรือครับ

          ไปอยู่กับครู ที่บ้านครูมีบ้านสร้างสรรค์เด็ก อยู่ที่คลองสามเป็นบ้านเด็กผู้ชาย เด็กทุกคนได้เรียนหนังสือ มีงานเกษตรให้ทำ มีฟาร์มไก่ ฟาร์มเห็ด สนุก  ดีกว่าอยู่ถนนแน่นอน ลองดูก่อนดีไหม

          เงียบ  ไม่มีเสียงตอบจากปากชัย

          คุณใจก็บอกว่าเขียน ก. ถึง ฮ ได้ไหม  ลองเขียนให้ดูหน่อย ชัยก็ตั้งใจเขียน พร้อมเขียนชื่อตัวกำกับ ตอนท้ายด้วย

          ในขณะนั้นครูก็แอบถ่ายรูปไว้ตลอดเวลา

          คุณป้า ที่กวาดขยะ ถามครูว่าเป็นใคร ครูบอกว่ามาจากมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก อยากให้ชัยไปอยู่ด้วยนั่งกล่อมกันมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว  ชัยเขายังไม่ตกลงเลย  เขายังเฉยอยู่เลย

          คุณป้ารีบพูดเสริมทันทีไอ้หนู ไปกับครูเขาเถอะเพื่ออนาคตเอง ดีกว่ามานอนอย่างนี้ทุกวัน ป้ามากวาดถนนตอนตีสี่ ป้าเห็นเอ็งนอนแล้วบอกเลยว่าเจ็บปวด เป็นลูก เป็นหลานให้มานอนแบบหมาข้างถนนได้อย่าง เอ็งเป็นคนนะ เอ็งยังมีอนาคต  เอ็งไม่รักตัวเอ็งแล้วใครจะรัก ป้าเห็นเอ็งมากกว่า 5 เดือนแล้วนะ  เอ็งยังเด็กยังมีอนาคต อย่าเอาชีวิตมาทิ้งข้างถนนแบบนี้ได้ไหม ป้าขอร้อง  ครูเขาก็ดีมานั่งเฝ้า มานั่งกล่อมเอง  ไปกับครูเขาเถอะ



          ใช่ป้า ครูอยากให้เขาไปทดลองดูก่อน ถ้าบ้านครูไม่ดีก็กลับมา ไม่เป็นไรเดี๋ยวมาส่ง

          ชัยก็เงียบมาเคย ก้มหน้าเขียนหนังสือต่อ

          ครูเดินเข้าไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อสมุดวาดเขียน ดินสอสีหนึ่งกล่อง

          ชัยครูซื้อมา  ชัยวาดภาพเหมือนอะไรก็ได้  เพราะให้เด็กได้โชว์ความสามารถ  ชัยวาดภาพสวย ทั้งครูและคุณใจ ได้โอกาสรีบบอกว่า ฝีมือดี อย่างนี้ต้องรีบกลับไปเรียน จะได้ไม่ลืม เขียนหนังสือก็สวย วาดภาพก็เก่ง  อย่างนี้ได้เรียน รับรองเรียนได้ดีแน่นอน  ชัยจะอยากเรียนอยู่ไหม

          ครูผมอยากเรียน  แต่ผมอยากมารอพ่อกับพี่ชายให้มารับ

          ชัยลองคิดดูซิ เราเข้าไม่ได้ทั้งเมียใหม่พ่อ แฟนพี่ชาย เราจะอยู่บ้านได้หรือ..ลองไปกับครูก่อนดีไหม  ลองดูก็ได้

          ชัย หยุดเขียน วิ่งไปเอาน้ำแข็งใส่น้ำหวานที่ร้านลุงกล้วย  ครูชะโงกหน้าไปยิ้มกับลุงกล้วย  ต่างคนต่างพยักหน้ากัน   ลุงกล้วยคงคุยเรื่องการเรียน   ใจลุงกล้วยก็อยากให้ชัยไปเรียนหนังสือที่ใดที่หนึ่ง  เพราะทั้งครูกับลุงชัยเคยคุยกันเรื่องนี้

          ชัยวิ่งมา ถามว่าครูกับพีใจกินไหม  กินด้วยกันก็ได้  ครูเลยค้นขวดน้ำในกระเป๋า ขอครูมีแล้ว ขอพี่ใจก็มี  ชัยกินเลย น้ำหวานอร่อยไหมของลุงกล้วยอะไรก็อร่อยหมด  ผมสนิทกับลุงกล้วยมากที่สุด แก่ไม่ดุผมเลย คอยแต่บอกแต่เรื่องดี ดี

          แล้ววันนี้มาเล่นกับครู กับพี่ใจ  ไม่ไปเล่นร้านเกมหรือ 

          ชัยหันมาถามว่ากี่โมงแล้ว 

          ครูตอบไปว่าบ่ายสองกว่าแล้ว

          ชัยตระโกนบอกว่าร้านเกมเปิดแล้ว   แต่วันนี้ผมไม่มีเงินเลย มัวแต่มาเล่นกับครู ไม่เป็นไร ไม่เล่นสักวัน

          ขณะนั้นก็มีคุณป้า ร้านขายลูกชิ้น วันจันทร์คุณป้าหยุดไปซื้ออาหารให้ลูกกับหลาน  แกเดินไปแล้วก็หันมามองพวกเราอยู่  แกเลยเดินมาคุยด้วย ยืนคุยกับพวกเรานานเป็นชั่วโมง

          คุณมาจากไหน เป็นครูที่ทำงานกับเด็กเร่ร่อน ข้างถนน มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก  ยายสาแกบอกว่ามีครูมาคุยกับเจ้าชัย  จึงอยากเห็น อ้อ...เคยเห็นครูในโทรทัศน์  ครูรู้จักครูน้อยไหม  ครูนวลน้อย ทิมกุล ใช่ไหม  ครูรู้จัก ถ้าไม่ปิดบ้านฉันจะเอาเจ้าชัยไปฝากแต่เขาปิดแล้ว

          แก หันไปหาชัย  เจ้าชัยเอย ครูเขาอุตสาห์มารับ มานั่งคุยกับเจ้า เห็นคนในตลาดบอกว่า ครูนั่งคุยกับเจ้า สามชั่วโมงกว่าแล้วนะ ไม่สงสารครูบ้างเลยหรือ ครูจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง  เจ้าชัยเอยคนที่นี้เขาสงสารเอ็ง เขาไม่ต้องการให้เอ็งขอเงินคนอื่น ไม่ต้องการให้เอ็งใช้เร่ร่อนไม่มีที่ซุกหัวนอน เขาไม่ต้องการให้เอ็งไปติดยา เดินยาติดคุกเหมือนคนไม่มีสติ  เอ็งก็เห็นวงจรอุบาทก์ที่เกิดขึ้นกับคนแถวนี้ สอง สาม ราย ที่นอนกับพวกเอ็ง  อยากเป็นอย่างนั้นใช่ไหม   เอ็งโชคดีกว่าคนอื่นที่เอ็งอายุน้อย  มีครูเขาเมตตา  มีครูเขาเข้ามาช่วย

          ครูหันไปถามชัย กับครูไหม

          ชัย  หันมาตอบว่า  ครู “ไปก็ไป”  แต่ครูต้องมาส่ง

          ครูหันมายิ้มกับคุณใจ ยกมือไหว้ป้า  ป้ายิ้มแล้วพยักหน้ากับครู

          ครูไปเรียกแท็กซี่ทันที  ครูกำลังขึ้นรถเสียงลุงกล้วยตระโกนมาว่า ตั้งใจเรียนนะชัย  เรียนให้เก่ง เก่ง นะ  อย่าเกเรนะ  เรียนหนังสือให้จบ

          ครูหันไปยกมือไหว้ลุงกล้วย  ลุงกล้วยยกมือบ๊าย บาย มา

          ขึ้นบนรถแท็กซี่  ครูนั่งด้านหลังกับชัย

          ครูบอกว่านอนได้เลยนะ  ถึงที่แล้วจะปลุก ไม่ต้องกลัว  แต่เจ้าชัยไม่ยอมนอน  เพราะครูรู้มาว่าเจ้าชัย เมื่อคืนไม่ได้นอนเลย  เดินไป-เดินมาตลอดทั้งคืน  เพราะมีกลุ่มวัยรุ่นมากวน

          เมื่อถึงที่บ้านสร้างสรรค์เด็ก พบผู้จัดการบ้าน พาเดินดูฟาร์มเห็ด ฟาร์มไก่  เจ้าชัยตื่นเต้นมาก  แล้วเดินไปหยิบขนมกิน  รอจนครูกลับมาจากรับเด็ก

          ตอนแรกก็บอกจะกลับมาที่เดิม  ครูก็บอกว่าลองอยู่สักสองสามวัน ถ้าอยู่ไม่ได้ให้ครูที่บ้านโทรบอกครูเลย

          ครูที่จัดให้เข้าอยู่ในบ้านเด็กเล็ก กลับมาก็พาไปอาบน้ำ แล้วให้นอนดูทีวี แล้วก็กลับไปเลย

          ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เจ้าชัยก็อยู่กับเด็ก เด็ก ที่บ้านสร้างสรรค์เด็ก

          การตัดสินใจของเด็กเร่ร่อน  ที่จะหยุดเร่ร่อน ที่สำคัญต้องให้เด็กตัดสินใจด้วยตนเอง