banner
อังคาร ที่ 24 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2559 แก้ไข admin

สุนัขหรือเด็กที่ต้องดูแล ...บนถนน


นางสาวทองพูล  บัวศรี

ผู้จัดการโครงการครูข้างถนน  มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก

 

                เรื่องเด็กเร่ร่อนกับภาพหมาขอทาน เป็นเรื่องที่โด่งดังกันมาอย่างต่อเนื่องสองถึงสามปีแล้วตั้งแต่ที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งมาบุญครอง  ช่วงนั้นทางโครงการก็ช่วยในระดับหนึ่งในรื่องเด็กได้เข้าเรียนมีการทำกติกา เงื่อนไขร่วมกันห้ามเด็กออกมาขอทาน  จนปัจจุบันเรียนในระดับมัธยมศึกษา ข่าวก็หายไป  จนเมื่อมีพลเมืองหลายคนแท๊กภาพเด็กนอนกับหมามายัง เฟซบุคหลายคนที่ส่งมา

ภาพที่เสนอมาทางเพจ  Hang Ley Fan Clubเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม  2558  พบเด็กกับหมาตัวน้อย  หน้าห้าง Tenminal 21  ซอยอโศก  ผู้ที่โพสต์ภาพ อยากให้เด็กได้รับความช่วยเหลือให้ได้เรียนหนังสือ และไม่ต้องการให้ทรมาณสัตว์เลียง  ด้วยการพามาบนถนน  ถือว่าเป็นทรมานสัตว์เลี้ยง ผิดกฎหมาย เผยแพร่กันอย่างมาก  และได้รับการแท๊กทั้งภาพและข้อมูลมาจากหลายส่วน  ครูเองได้นำภาพเหล่านั้นให้ครูข้างถนน  ลงไปดำเนินการแต่ไม่พบทั้งเด็กและสุนัข   สำหรับครูเองการทำงานต้องมีตามติดพร้อมทั้งสืบว่าแม่และเด็กเร่ร่อนขอทาน และกลุ่มอื่นที่เคยขอทานที่พื้นที่อโศก 

เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2559  ครูได้ลงพื้นที่เองจากอโศก จนถึง  สยาม เป็นการเดินกว่าสองชั่วโมง  แล้วนำรูปของเด็กและสุนัขตามทั้งกลุ่มวินมอเตอร์ไซด์  กลุ่มคนเร่ร่อนขอทาน กลุ่มแม่และเด็กเร่ร่อนต่างด้าว  ซึ่งเป็นช่วงห้าโมงเย็นจนถึง หนึ่งทุ่มตรง  ได้ข้อมูลคราวว่า ว่ารูปที่เผยแพร่กันนั้นมีจริง จะอยู่ที่อโศก มากับยาย และมาดึกประมาณสามทุ่ม จนถึงตีสอง  ยายของเด็กจะอาวาดกับทุกคนที่เป็นกลุ่มขอทานทั้งคนไทยและต่างชาติห้ามนั่งขอบริเวณอโศก เพราะจะมีหลานหลายคนมีสุนัขสองตัว  นี้คือค้นหาข้อมูลพื้นบษนคราวๆว่าภาพที่เผยแพร่ในเฟซบุคมีอยู่จริง  และก็เผยแพร่กันอย่างกว้างขว้าง

 

วันที่ 6 ตุลาคม 2559  ครูจิ๋วก็ลงพื้นที่กลางคืนอีกครั้ง  ยังไม่พบเคส แต่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเคสนี้  ไม่มีใครอยากยุ่งด้วยเพราะการด่ากราดของยาย กับทุกคน  บอกทุกหน่วยงานบอกทุกคนว่าเขาเลี้ยงหลานฉันได้  ใครอยากทำบุญก็ทำไม่อยากทำก็อย่างยุ่ง  แม้กระทั่งหมาที่แก่เอามาด้วย  ซึ่งเป็นคำบอกกล่าวของกลุ่มขอทานที่เป็นคนพิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มแม่และเด็ก จนถึงกระทั่งแม่ค้าในบริเวณแถวนั้นที่รู้กันดี แก่รักหลานและหมาของแก่มาก  ใครอยากได้พูดในทางไม่ดีเด็ดขาด แก่จะสู้จนยิบตา ทั้งปากที่ด่ากราด คำพูดของแก่จะแรงมาก มาก  จนคนบริเวณนั้นไม่มีใครอย่างยุ่งกับครอบครัวนี้  ส่วนวินมอเตอร์ไซด์ทั้งสองฝั่งก็บอกว่า แก่รักหลานผิด หลานควรที่จะได้นอนที่บ้านแก่กับเอาตระเวณมาด้วย  มาครั้งละ 4-5 คน  หลานผู้หญิงที่โตเป็นสาวแล้วก็มี  ซึ่งไม่น่าจะเอาออกมาเพราะแถวอโศก ซอยคาวบอย ก็รู้ รู้ กันอยู่ว่าเป็นแหล่งหญิงค้าประเวณี มีการโชว์กันทุกคืน  อย่างนี้ส่งเสริมหลานเข้าสู่แหล่งอบายมุขได้เร็วยิ่งขึ้น  ทุกคนสงสารเด็ก แต่ก็ไม่รู้จะช่วยกันอย่างไร เพราะความรักที่ยายมีการแก่หลานก็มากจริง จริง   ถ้าแก่มีเงินหรือหลานขอทานได้ ขายลูกชิ้นได้หรือผลไม้ได้  ก็ให้หลานแก่กินเต็มที่ ซื้อเต็มที่  จนบางครั้งพวกเราก็เตือนเด็กให้เก็บออมบ้าง   นี้คือข้อมูลรอบข้างที่มีโอกาสได้พูดคุยในรายละเอียดจนเห็นภาพของเคสพอสมควร  ที่เหลือคือได้คุยกับเคส

 

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2559 เวลา 21.30 น. พร้อมกับน้องนักข่าวช่อง 3 ได้มีโอกาสพบคุณยาย  ซึ่งวันนี้เป็นหลานผู้ชายที่นอนคู่กับหมาน้อยสองตัว  ด้วยเหตุผลที่ว่า หลานชายง่วงนอนเป็นอย่างมาก  ครั้งแรกถามคุณยายที่ขายน้ำส้มก่อน บอกว่าไม่ทราบ ไม่รู้ แต่ก็ไม่อยากที่ต้องถามอะไรมาก  จนคุณยายเดินข้ามถนนมาจากหน้าห้าง  คือสุขุมวิทฝั่งเลขคี่  ส่วนเคสจะอยู่สุขุมวิทฝั่งเลขคู่ ได้มีโอกาสคุยกัน

คุณยายนัน(นามสมุติ) มีลูกสาว 3 คน ซึ่งแต่ละคนก็มีคอบครัวของตัวเอง  แต่ไม่รู้อย่างไรลูกสาวก็เลิกกับสามี  แต่ละคนก็มีลูก  ตอนนี้ฉันมีหลาน 4 คนที่ต้องรับผิดชอบ  ฉันอาศัยอยู่ที่ชุมชนต้นสน (ซึ่งกำลังถูกไล่รื้ออยู่) เหลือไม่กี่หลังแล้ว  แค่ไล่รื้อฉันก็กลุ้มจะบ้าตายอยู่แล้ว   ไหนจะเรื่องปากเรื่องท้องทั้งคนและหมา

ลูกสาว 3 คนต่างก็มีลูกของตัวเอง  ลูกสาวคนโต ตอนนี้อายุ ประมาณ 26 ปี แล้ว มีลูกสองคน  คือน้องแพน(นามสมมุติ) อายุ 11 ปี ที่คุณเห็นวิ่งขายผลไม้บ้าง ขายดอกไม้บ้าง  ซึ่งกลางวันไปเรียนหนังสือทุกวัน ตอนกลางคืนฉันต้องเอามาด้วยเพราะเป็นตัวหลักในการหาเงิน คนที่สองที่เห็นอยู่คือ เด็กชายอ้น(นามสมุติ) อายุ 8 ปี  หลานชายคนนี้ติดเกมส์อย่างมาก ไปโรงเรียนไม่ชอบเรียนหนังสือหนีเรียนเป็นประจำ เวลาไปไหนต้องเอาไปด้วย จนห้างสรรพสินค้าแถวนี้ถ่ายรูปติดหน้าห้างห้ามให้เด็ก ผู้ชายสี่คน เข้าห้างโดยเด็ดขาด  เพราะไปหยิบของของเขา ฉันก็กลัวมันจะติดคุก  เด็กอีกสามเป็นเด็กแถวนี้พ่อแม่ทำงานรับจ้างเหมือนกัน  คนนี้ส่วนมากเวลามาก็จะช่วยได้บ้างเล็กน้อยแต่ พอดึกหน่อยก็จะนอนหลับอย่างที่คุณเห็น ฉันก็เลยเอาหมาให้นอนด้วยกัน  โดยปูผ้าห่มให้เด็กนอน เอาเชือกผูกขาหมาไม่อย่างนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ลูกหมามันจะวิ่งลงไปถนนเป็นอัตราย ตายมาแล้วสองตัวค่าเสียหายก็ไม่ได้เพราะหมาวิ่งไปให้เขาชนเอง  เจ้าของรถก็พยายามจะมาบอกเราแต่เราก็ไม่มีที่จะให้ค่าเสียหายหรอกนะ  มีเจ้าหนึ่งเป็นมอเตอร์ไซดรับส่งเอกสาร  เขาก็วิ่งมาดีดี  หมาของเราวิ่งไปชนมอเตอร์ไซด์  มอเตอร์ไซด์หักหลบ รถเก่งมาก็เสยสุนัขไปไกลกว่า 500 เมตร ตายคาที  รถเก่งก็ขับไปแล้ว แต่เจ้าของมอเตอร์ไซด์ซิบาดเจ็บ  ต้องรักษาตัวกันนาน


ลูกสาวคนที่สอง มีลูก 1 คน คนที่คุณ(ครูจิ๋ว)นะ ที่นอนกับหมาเผยแพร่กันในเฟซบุค   จึงเอาตัดสินใจเอารูปให้คุณยายนันดู  คุณยายบอกว่าเป็นเรื่องจริง  เด็กมันง่วงนอนฉันก็จัดให้นอนเหมือนเด็กผู้ชาย  นานฝั่งโน้น(หน้าห้าง)  นอนตรงนี้บ้าง  เมื่อหลับแล้วฉันก็เอากระป๋องมาตั้งเพื่อจะได้ค่ากับข้าว หรืออาหารตอนเช้า บางครั้งก็เป็นค่ารถสามล้อกลับชุมชน  แต่พวกฉันไม่ได้ทรมาณหมานะ  คือฉันนะเก็บหมาจรจัดมาเลี้ยงกว่า 20 ตัว อยู่ในชุมชน ฉันจึงมีทั้งเลี้ยงคนและเลี้ยงหมา ฉันไม่ได้ให้หมาอดยากนะไปดูได้  ฉันเอาหมามาเลี้ยงก็ไม่ได้ไปป่าวประกาศให้คนมาบริจาค ฉันเลี้ยงเพราะฉันอยากเลี้ยง  แต่เจ้าของสองตัวเวลาอยู่ในชุมชนมันชอบเห่า และซนมาก  บางครั้งก็วิ่งไปบ้านอื่นๆจนฉันหากันไม่เจอและสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเขา  เพราะเสียงของมัน ฉันต้องเอาขึ้นสามล้อมาด้วยทุกคืน   กว่าจะกลับก็ประมาณตีสอง

ลูกสาวที่สาม มีลูก 1 คน กำลังตั้งท้องได้ 4 เดือนอีกคนในท้อง ลูกเขยฉันมีอาชีพอยู่ในคุก เดี๋ยวออกมาสองเดือนกลับไปช่วยราชการสามเดือน  เป็นอย่างนี้เพราะมันไม่ยอมเลิกยา  ส่วนมากมันเสพ มันจึงทำให้ลูกเมียลำบาก  มันเป็นกรรมของฉัน  สามีฉันบอกว่ากรรมของพวกเราทุกคน แต่ชีวิตยังต้องเดินต่อมันจึงต้องสูกัน    เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ลูกและหลานฉัน โดยศูนย์ช่วยเหลือสังคม (1300) ถูกนำตัวไปส่งที่บ้าน แล้วก็ทำประวัติครอบครัวฉันทั้งสามครอบครัวเลยนะ  แล้วก็บอกว่าอย่าออกมาอีก  ถ้าฉันไม่ออกมาแล้วจะเอาอะไรกินกันทั้งหมาและคน

กิจวัตรประจำวันของคุณยายนัน ในแต่ละวัน ทำอะไรบ้าง  ในครอบครัวฉันตอนนี้ อยู่ด้วยกันลูกสาว 3 คน หลาน 4 คน ตากับยายอีก 2  คน สำหรับคนก็ 9 คนแล้วนะ  ส่วนหมาตอนนี้ 20 ตัว ซึ่งก็มีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ปะปนกันไป  คนในชุมชนที่เหลืออยู่เขารำคาญหมาของฉันมาก  แต่ฉันรักของฉันนะคุณ  ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฉันต้องหาที่อยู่ให้ได้ก่อนทั้งหมาและคน เขาไล่รื้อแน่นอน  น่าจะไม่เกินสิ้นปีนี้  ฉันตื่นแต่เช้าทำอาหารให้หลานไปโรงเรียน หลังสิบโมงฉันก็ไปตลาดคลองเตยซื้อลูกชิ้นเนื้อ หมู ไก่  แล้วก็โครงไก่มาเป็นอาหารหมา  ตอนเที่ยงก็ทำอาหารหมาคือสับโครงการต้มกับปลายข้าวให้หมากิน  ล้างคอกหมา ทำความสะอาดบ้าน ประมาณบ่ายสามฉันก็เตรียมอุปกรณ์ ลูกชิ้น  พอเด็กกลับมาก็ช่วยกันเสียบไม้ ลูกสาวก็ต้องมาช่วยกัน ลูกสาวฉันแต่ละคนก็ต้องเตรียมของขายกันเอง เช่นดอกไม้ ผลไม้ ข้าวโพดต้ม  แล้วแต่ใครจะมีทุนเท่าไรก็ว่ากันไป  ประมาณสักสองทุ่มครึ่งก็นั่งสามล้อออกจากชุมชน ไป-กลับคันละ 200 บาท เฉพาะค่าสามล้อก็ไปแล้ว 400 บาทต่อคืนนะ มาถึงก็ประมาณ สามทุ่มทุกคนก็จะต้องทำงานของตัวเอง หลานคนไหนง่วงนอนก็มาสลับกัน  จนถึงตีสอง   มีหน่วยงานบางแห่งว่ายายนัน ใช้แรงงานเด็ก ฉันก็ด่ากลับไปว่าจะให้เอาอะไรกิน  บางหน่วยงานก็ให้อาหารแห้ง มาม่าสองห่อแล้วก็จบ   ฉันขอบใจทุกคนที่ช่วยฉัน  ฉันก็ต้องนำพาครอบครัวฉันให้รอด  เพราะฉันอดตายไม่มีใครมาอดตายกันฉัน  (เสียงดังฟังฉัน)

 

เมื่อได้ข้อมูลรอบด้าน และเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2558  ก็นำข้อมูลส่งต่อไปยังบ้านมิตรไมตรี  ทุกคนบอกว่าคุยหลายรอบมาก แต่เข้าไม่ถึง โดยด่ากันทุกคน จนประเมินว่าน่าจะมีปัญหาสุขภาพจิตทั้งครอบครัว  งานนี้ก็ถือว่าจบแล้วในหน้าที่ของครูข้างถนน ประสานส่งต่อข้อมูล  และหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงได้รับรู้ รับทราบ และลงไปเองเจอเคสแล้ว

 

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559 เคสนี้กับโด่งดังขึ้นมาอีกครั้งบน FB แต่เป็นเด็กผู้ชายที่นอนเคียงคู่กับหมา  แถมมีคอนเมนต์กว่าหลายพันที่คอมเมนต์กันสนั่นเฟซบุค  มีทั้งสงสารหมาเอาหมามาหากิน ทรมานสัตว์ ต้องเอาผิด หมาก็มีหัวใจ เยอะไปหมด  แต่บางคนก็ด่า NGOs เวลานี้เหล่านี้ไม่ช่วย มัวแต่ทำอะไรกันอยู่  บางคนถึงกับบอกถ้าไม่ช่วยเด็กก็ปิดกันไปเลยมีองค์กรด้านเด็กตั้งมากมาย  บางคนก็ด่าหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์   บางคนก็ชมบางองค์กรจนออกนอกหน้าว่าดี ทำกิจกรรมอย่างนี้ช่วยเหลือสังคม  อ่านมากปวดหัวคอมเมนต์มากก็เลยปล่อย สำหรับครูนะ   แต่ก็ยังลงไปตามพื้นที่อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เจอบ้างไม่เจอบ้าง  แต่หลานบอกว่าตาห้ามยายออกมาเด็ดขาด  ยกเว้นหลาน จึงมาบ้างไม่มาบ้าง ที่ภาพที่เผยแพร่เป็นน้องหนู่เอง  วันไหนฝรั่งให้เงินแบงค์พั คนเห็นกันเยอะจึงไปโพสต์  แต่หนูเฉยนะ  เพราะไม่ได้แบบนี้ทุกวัน  บางวันพวกเราก็ไม่มีกินกันเลย  คนเหล่านั้นเขารู้ชีวิตพวกหนูบ้างไหม   ใกล้สอบแล้ว หนู่ก็เตรียมสอบเข้า ม.1  แม่ให้ไปเรียนใกล้ชุมชนที่จะย้ายไปใหม่ แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะไปที่ไหน  เพราะยายไปหาที่แต่ละแห่งไม่ให้เอาหมาไป  เขารังเกียจหมาของพวกหนู 

 

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม  2559  ได้มีโอกาสพบกับลูกสาวคนเล็กของคุณยายนันที่อโศก  ครั้งนี้มีหลานมานานที่ตีนสะพานลอย  งานนี้เขาเจอครูจิ๋วแล้วดีใจมาก บอกว่ากำลังจะย้ายไปสิ้นเดือนนี้ หนูอยากได้เบอร็โทรศัพท์เรื่องย้ายการเรียนขอลูก และหลาน  อยากให้ช่วยเรื่องการเรียน  จึงให้เบอร์โทรศัพท์ไป  แล้วคอยว่าเคสต้องการความช่วยเหลือจริงแค่ไหน   แล้วบอกว่าคุณยายนัน บ่นถึงครูว่าเมื่อไรจะได้เจอ  เพราะเมื่อย้ายไปที่ใหม่คงต้องขอความช่วยเหลือจากครูหลายเร่อง

 

สำหรับการทำงานของครอบครัวนี้ใช้เวลาการพูดคุยกันอย่างยาวนาน อดทนซึ่งกันและกัน ทั้งครูและเคส   ครูเองก็อยากให้เคสพ้นถนน มีอาชีพที่ดีพอสมควรทำ  สำหรับเคสเองก็บอกว่าไม่มีจะกินใครช่วยได้  แค่นี้ก็อดมื้อกกินมื้อแล้วครู   สำหรับหน่วยงานจะให้การสงเคราะห์อย่างเดียวมันก็ไม่ใช่คำตอบในการที่เคสจะช่วยกันตัดสินใจทั้งครอบครัว  ที่จะต้องยุติการขอเงินบนถนน  แต่ภาพเหล่านี้จะหายไปจากถนนสุขุมวิทเลย  บอกได้เลยคะ  ว่าเดี๋ยวก็มีเคสมาใหม่ให้ครูได้ทำงาน 

งานนี้เป็นตัวอย่างการทำงานที่มีทุกฝ่ายเข้ามาร่วมจัดการปัญหา  ก็ยังทำไม่ได้ทั้งหมด ถ้าตัวเคสไม่ต้องการความช่วยเหลือ  แต่ครั้งนี้เป็นตัวเคสพร้อมครอบครัวให้ครูเขาไปดำเนินการช่วยเหลือก็เหลือเพียงว่าจะเริ่มต้นเมื่อไร  ทั้งหมาและคนต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม